วันนี้ (22 เม.ย.2567) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ว่า จากรายงานล่าสุดช่วงเย็นเมื่อวานนี้ มีผู้หนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมาอพยพเข้ามาประเทศไทยประมาณ 2,800 คน และเดินทางกลับไปแล้วประมาณ 1,200 คน
- ด่วน! คพ.แจ้ง "อบต.บางบุตร" อพยพหนีไฟไหม้โรงงานกากของเสีย
- โลกเดือด! อุณหภูมิไทยแตะ 43 องศาฯ ปะการังฟอกขาว
ส่วนสถานการณ์ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่ได้รับรายงาน โดยในวันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) จะมีการประชุมของคณะกรรมการรับมือสถานการณ์เมียนมา ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ขณะที่ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ จะมีการลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ
ยืนยันว่าประเทศไทยได้มีการเตรียมแผนทั้งระยะสั้น และระยะยาวไว้หมดแล้ว และได้มีการเตรียมแผนไว้นานแล้ว ดังนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์ ก็พร้อมรับทันที ซึ่งเห็นได้จากประชาชนที่อพยพเข้ามาประเทศไทย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็สามารถรองรับได้หมด
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทางประเทศไทยก็ได้รับเข้ามาดูแล ยืนยันว่าศูนย์อพยพของไทยไม่จำเป็นต้องร้องขอเพิ่มเติมแต่จะปรับปรุงและทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
อ่านข่าว ชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเดินทางกลับ หลังไม่มีเหตุปะทะ
รอ "บีจีเอฟ" ตัวกลางเจรจาเมียนมา
ด้านพล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า หลังจากกองกำลังบีจีเอฟ เป็นตัวกลางในประสานงานในการพูดคุย ระหว่างเมียนมากับกองกำลังกะเหรี่ยง ที่บริเวณหัวสะพาน ทำให้สถานการณ์ปะทะเบาบางลงและรอการเจรจาส่วนของไทยไม่อยากให้มีการสู้รบเพราะจะเกิดการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย
ผลการเจรจาจะออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนกำลังที่จะเคลื่อนย้ายเข้ามาในเมียวดียังมาไม่ถึง ส่วนประชาชนเมียนมาที่อพยพเข้ามาไทย บางส่วนกลับไปบ้านแล้วเหลือเพียง 1,000 กว่าคน
ผู้อพยพบางส่วนเดินทางกลับประเทศเมียนมา
พล.ท.ประสาน กล่าวว่า ตอนนี้การเดินทางข้ามแดนยังเป็นไปตามปกติ แต่ติดที่ตม.ของเมียนมา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ซึ่งได้แจ้งเตือนให้ระมัดระวังเรื่องกระสุนที่มีกระสุนมาทางฝั่งไทย และประชาชนยังกังวลเรื่องความปลอดภัย
เมื่อถามว่าจะคัดกรองคนที่ข้ามมาอาจมีกลุ่มคนที่เป็นทุนสีเทาแอบแฝงเข้ามาอย่างไร พล.ท.ประสาน กล่าวว่า มีมาตรการคัดกรอง และคนที่เข้ามาต้องไม่ถืออาวุธ และมีการทำประวัติก่อนเข้าพื้นที่อพยพ
เพื่อนบ้านทะเลาะกัน เราก็ต้องได้รับผลกระทบแต่เราต้องช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม และคนที่จะเข้ามาต้องผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ส่วนคนที่เข้ามาจุดอื่นถือว่าผิดกฎหมาย
อ่านข่าวอุทยานฯ แก่งกระจาน พบ "เสือโคร่ง" ตัวใหม่ KKT-006M
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข
ชาวเมียนมาบาดเจ็บ 41 คน-จัด 6 รพ.รองรับ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่โรงพยาบาลแม่สอด และตรวจเยี่ยมให้กำลังทีมแพทย์ กล่าวว่า คืนวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลแม่สอดมีการประกาศแผนฉุกเฉิน เป็นแผนด้านการรองรับผู้ป่วยหมู่ เนื่องจากมีผู้ป่วยส่งเข้ามาพร้อมกันถึง 22 คน เป็นแผนรองรับผู้ป่วยฉุกเฉินตามปกติของโรงพยาบาล มี 3 ระดับ คือ รุนแรงสูงสุด มีผู้บาดเจ็บหนัก 7 คน ผู้ป่วยมากกว่า 20 คน รุนแรงปานกลาง มีผู้บาดเจ็บหนักน้อยกว่า 7 คน ผู้ป่วยรวมมากกว่า 10 คน แต่ไม่เกิน 20 คน และระดับรุนแรงน้อย เมื่อให้การดูแลผู้ป่วยเรียบร้อยแล้วก็จะยุติแผนฉุกเฉิน
สำหรับผู้ป่วยมีผู้รับบาดเจ็บต้องรับการผ่าตัดรวม 41 คน เมื่อผู้ป่วยดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลได้ จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงรับไปดำเนินการดูแลต่อ
นอกจากนี้ แผนรองรับผู้ป่วยได้จัดเตรียมห้องผ่าตัดและเตียงโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัด ได้แก่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รพ.พบพระ รพ.แม่ระมาด รพ.ท่าสองยาง รพ.อุ้มผาง และรพ.แม่สอด รวมห้องผ่าตัด 19 ห้อง และไอซียู 36 เตียง กรณีมีการผ่าตัดมากกว่า 4 คน จะส่งต่อในจังหวัด และหากมากกว่า 10 คน จะพิจารณาส่งต่อในเขตและจังหวัดใกล้เคียง
ส่วนบริเวณพื้นที่ปลอดภัย ได้จัดพยาบาลและเจ้าหน้าที่ประจำทุกวันๆ ละ 3 คน และแพทย์โรงพยาบาลแม่สอดให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน และได้จัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ไว้รองรับ
ขณะที่ด้านสุขาภิบาล น้ำกินจะใช้แบบบรรจุขวดเท่านั้น ส่วนน้ำใช้ มีการตรวจวัดและเติมคลอรีนในน้ำ ให้คำแนะนำตรวจสอบอาหารทุกมื้อ แนะนำการจัดการขยะ และจัดอาสาสมัครในกลุ่มผู้หนีภัยฯ ช่วยจัดการขยะในพื้นที
อ่านข่าวอื่นๆ
เลื่อนคดี "บิ๊กโจ๊ก" ฟ้องหมิ่นสื่อ-อัจฉริยะ 8 ก.ค.นี้
"พิพัฒน์" แย้มบิ๊กเซอร์ไพรส์ค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ 1 พ.ค.