สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 360 เสียงต่อ 58 เสียง เห็นชอบให้บริษัท ไบท์แดนซ์ (ByteDance) จากประเทศจีน ซึ่งเป็นเจ้าของแอปพลิเคชันติ๊กตอก (TikTok) ซึ่งมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ มากถึง 170 ล้านบัญชี จะต้องขายหุ้นภายในเวลา 1 ปี มิฉะนั้น TikTok จะถูกถอดออกจากระบบปฏิบัติการของบริษัทแอปเปิลและกูเกิล
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาภายในสัปดาห์นี้ หากผ่านความเห็นชอบ จะถูกส่งให้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดี ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ส่วนสาเหตุที่สหรัฐฯ ต้องการให้ TikTok เปลี่ยนตัวเจ้าของรายใหม่ เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลจีนอาจใช้แอปพลิเคชัน TikTok เพื่อสอดแนม
ด้าน TikTok ออกแถลงการณ์ ระบุว่า การลงมติของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ถือเป็นการย่ำยีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของชาวอเมริกัน 170 ล้านคน ทำลายธุรกิจ 7 ล้านราย และปิดช่องทางที่สร้างรายได้ 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเงินหนุนพันธมิตร
นอกจากการลงมติเรื่อง TikTok แล้ว ในวาระเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรยังลงมติเรื่องการให้เงินสนับสนุนแก่พันธมิตรทั่วโลก จำนวน 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจำนวนนี้มีเงินสนับสนุนยูเครน 60,000 ล้านดอลลาร์ เงินสนับสนุนอิสราเอล 20,000 ล้านดอลลาร์ เงินสนับสนุนไต้หวัน 8,000 ล้านดอลลาร์
สำหรับเงินสนับสนุนยูเครนได้รับความเห็นชอบ 311 เสียงต่อ 112 เสียง ขณะที่เงินสนับสนุนอิสราเอลได้รับความเห็นชอบ 366 เสียงต่อ 58 เสียง แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องผ่านการพิจารณาจากวุฒิสภาเช่นเดียวกัน ก่อนจะส่งให้ประธานาธิบดีลงนามรับรองในขั้นต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ
สหรัฐฯ ไฟเขียวเงินหนุนอิสราเอล - ปชช.ประท้วงเนทันยาฮูลาออก