"ผมหลบอยู่ 2 คืน เมื่อคืนก็ต้องมุดใต้ท่อ เพราะระเบิดลงรอบ ๆ ต่างคนก็ต่างเอาตัวรอด คิดว่าตายแน่ ไม่ได้กลับบ้านแน่เมื่อวานนี้ ระเบิดลงห่างนิดเดียว ฝุ่นตลบ และมีการยิงลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ หลังทหารเมียนมายิงขึ้นไป และทิ้งระเบิดทิ้งปูพรม"
"ณรงค์ฤทธิ์ ลินไธสงค์" ชาวไทยที่มีอาชีพขับรถบรรทุกขนส่งสินค้า ซึ่งติดอยู่ในฝั่งเมียนมา ขณะมีการสู้รบระหว่างฝ่ายต่อต้านกับทหารเมียนมา ได้บอกเล่านาทีชีวิต ต้องอาศัยใต้รถบรรทุกโล่ห์กำบัง หลบภายในปั๊มน้ำมันข้ามคืน ท่ามกลางเสียงปืน และระเบิดรอบตัวในระยะใกล้ คิดว่าอาจไม่มีชีวิตรอดกลับไปบ้านเกิด โดยมีคนขับรถขนส่งสินค้าชาวไทยประสบเหตุเช่นเดียวกับเขา เพราะไม่สามารถหนีเข้ามาฝั่งไทยได้ทัน
พวกผมต้องอยู่ใต้รถ คิดว่าไม่รอดสักคน หลังผมออกไปจากปั๊มที่หลบได้ครึ่งชั่วโมง มีระเบิดลงอีก 2 ลูก ชาวเมียนมาขาขาดและสะเก็ดระเบิดเข้าตา ถ้าผมไม่ออกไปก่อน คิดว่าไม่รอดแน่
เช่นเดียวกับ "บดินทร์ การกระสงข์" คนขับรถบรรทุกสินค้า ที่บอกเล่าว่าได้พยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วยได้ จึงต้องหลบใต้รถตั้งแต่กลางวันถึงกลางคืน วัดดวงว่าจะรอดหรือไม่ กระทั่งหนีออกมาได้ช่วงเวลา 16.00 น.
ทั้งนี้ คาดว่ามีรถบรรทุกขนส่งสินค้าจากไทย ติดอยู่ในฝั่งเมียวดี เมียนมา ประมาณ 20 คัน บางส่วนได้รับความเสียหายจากการยิงปะทะ และมี 1 คันเสียหายจากระเบิด ล่าสุดยังมีคนขับรถติดค้างในฝั่งเมียนมาอีกจำนวนหนึ่ง และบางส่วนขอประสานนำรถข้ามผ่านช่องทางธรรมชาติ
คนขับรถบรรทุก ให้ข้อมูลว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุปะทะกันในฝั่งเมียนมา ไม่พบคนไทยบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่กลุ่มชาวเมียนมาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก โดยชาวเมียนมาหนีการสู้รบข้ามมายังฝั่งไทยกว่า 3,000 คน บริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รพ.แม่สอด ระดมหมอ-จนท.ช่วยคนเจ็บเหตุสู้รบในเมียวดี
ปะทะเดือด! ชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 2,000 คน
ชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบ กระสุนถูกยิงเข้าฝั่งไทยทะลุหน้าต่างบ้าน