ความคืบหน้าหลังจาก "อิหร่าน" เปิดฉากยิงโดรนและขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกใส่อิสราเอลเช้านี้ (14 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเตือนและตอบโต้กรณีถูกทิ้งระเบิดโจมตีสถานกงสุลอิหร่านทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน
- "อิหร่าน" เปิดฉากยิงโดรน-ขีปนาวุธ 200 ลูกถล่มอิสราเอล
- กต.เตือนคนไทยเลี่ยงเดินทาง หลังเหตุตึงเครียดอิสราเอล-อิหร่าน
วันนี้ (14 เม.ย.2567) สำนักข่าว BBC รายงานว่าหลายชาติออกมาประณามอิหร่านที่ใช้โดรนและขีปนาวุธกว่า 200 ลูกการโจมตีอิสราเอล ซึ่งอาจเป็นชนวนความรุนแรงในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม IDF ระบุว่าโดรนหรือขีปนาวุธ 99% ถูกยิงตกก่อนเข้าสู่น่านฟ้าของอิสราเอล
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า ขอประณามความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจากการโจมตีของอิหร่าน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุติความเป็นปรปักษ์ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุด เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจนำไปสู่การเผชิญหน้าทางทหารครั้งใหญ่ในหลายแนวรบในตะวันออกกลาง
ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จะจัดการประชุมฉุกเฉินวันนี้ เพื่อประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับการโจมตีด้วยโดรน และขีปนาวุธของอิหร่านต่ออิสราเอล
ภายหลังอิสราเอล ร้องขอการประชุมดังกล่าว ซึ่งเขียนจดหมายถึง วาเนสซา ฟราเซียร์ เอกอัครราชทูตมอลตาประจำสหประชาชาติว่าการโจมตีดังกล่าวก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ
พร้อมระบุข้อกล่าวหาอิหร่านว่า ละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศ โดยการสนับ สนุนกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกลุ่มฮูตีในเยเมน
ขณะที่อีกฟากหนึ่งอิหร่าน ระบุว่าเป็นกระทำการป้องกันตนเองตามที่ระบุไว้ในมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ และเพื่อตอบสนองต่อการโจมตีทางทหารที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ของอิสราเอล
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เตรียมเรียกประชุม G7
ไบเดนจะเรียกประชุมผู้นำ G7
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เตรียมเรียกประชุมผู้นำ G7 ในวันนี้ เพื่อประสานการตอบโต้ทางการทูตที่เป็นเอกภาพ ต่อการโจมตีของอิหร่าน พร้อมทั้งตอกย้ำว่าสหรัฐฯ ยังคงเฝ้าระวังภัยคุกคามทุกรูปแบบ
ขณะที่บรรยากาศประชาชนในกรุงเยรูซาเลม ยังออกมาใช้ชีวิตปกติหลังการโจมตีอิสราเอลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของอิหร่านถือว่า "ล้มเหลว" โดยมีขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 200 ลูกเกือบทั้งหมดถูกสกัดกั้นโดยความช่วยเหลือของสหรัฐฯ และพันธมิตร
เตือนคนไทยในอิสราเอลฟังคำประกาศท้องถิ่น
ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกระจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.นี้ เวลา 23.00 น.จนถึงวันที่ 15 เม.ย.นี้ เวลา 23.00 น.
ห้ามมีการชุมนุมมากกว่า 1,000 คนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศและปิดสถาบันการศึกษาในพื้นที่สู้รบห้ามชุมนุมมากกว่า 30 คน สถานที่ทำงานเปิดได้เฉพาะที่มีห้องหลบภัย
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ประกาศปิดน่านฟ้าและงดเที่ยวบินทั้งหมดตั้งแต่เวลา 00:30 น. ของวันที่ 14 เมษายน 2567 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ขอให้ทุกท่านติดตามประกาศของแต่ละท้องที่หากต้องการติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ โปรดติดต่อ +972546368150 +972503673195
ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามประกาศของรัฐบาลอิสราเอล เพื่อความปลอดภัย ติดตามการประชาสัมพันธ์ คำสั่งทางการท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังตนเอง รวมทั้ง หาข้อมูลเพื่อติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อประโยชน์ของตนเองกรณีประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด
ปัจจุบัน มีคนไทยพำนักอยู่ในอิสราเอลประมาณ 28,000 คน และในอิหร่านประมาณ 300 คน โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ติดต่อกับชุมชนไทยเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพัฒนาการของสถานการณ์เป็นระยะเสมอมา โดยขณะนี้ ยังไม่มีรายงานคนไทยในอิสราเอลและอิหร่านได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว