วันนี้ (12 เม.ย.2567) นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรร เทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนน (11 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ขับขี่อย่างปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 234 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 248 คน ผู้เสียชีวิต 25 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ขับรถเร็ว ร้อยละ 44.02 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 20.94 ดื่มแล้วขับร้อยละ 16.67 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.07
ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 85.90 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 47.01 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 23.50 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01–17.00 น. ร้อยละ 8.55
อ่านข่าว วันแรกสงกรานต์ "เมาขับ" 258 คดี เพิ่มขึ้น 7% จากปี 66
ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20–29 ปี ร้อยละ 16.48 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,729 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,203 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สงขลา 11 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา 13 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 3 คน
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (13 เม.ย.) เป็นวันมหาสงกรานต์ ซึ่งจะมีการเล่นน้ำสงกรานต์ของประชาชน ศปถ.ได้กำชับจังหวัดเพิ่มความเข้มข้นจัดตั้งจุดตรวจของด่านชุมชนในเส้นทางสายรองเส้นทางเข้าออกชุมชน ถนน อบต.และหมู่บ้าน เพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนตั้งแต่ต้นทาง
อ่านข่าว 7 อันดับน้ำตกยอดฮิตสงกรานต์ เช็กอินคลายร้อน
พร้อมกวดขันกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยและไม่ขับขี่ด้วยความคึกคะนอง รวมถึงตรวจสอบความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ และรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารในลักษณะเสี่ยงอันตราย
อีกทั้งช่วยกันส่งเสริมการเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีวิถีไทย อาทิ การสรงน้ำพระ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ผู้สูงอายุ ตลอดจนเล่นน้ำสงกรานต์โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ให้เป็นเทศกาลแห่งความสุขและความปลอดภัย
อ่านข่าวส่งความสุขให้ "ผู้สูงวัย" อิ่มใจ 13 เมษายน "วันผู้สูงอายุแห่งชาติ"
คุมเข้มเดินทางกลับภูมิลำเนา-ขับรถเร็ว-ไม่รัดเข็มขัด
ด้านนายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี กล่าวว่า วันนี้ประชาชนบางส่วนเดินทางถึงภูมิลำเนาหรือสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว แต่ยังมีประชาชนส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างเดินทาง
โดยถนนสายหลักมุ่งสู่ภูมิภาคต่าง ๆ จะมีปริมาณรถหนาแน่น ศปถ.ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายจราจรเคร่งครัด พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลเส้นทางหลัก สายรอง และเส้นทางโดยรอบสถานที่ท่องเที่ยว คุมเข้มการขับรถเร็ว เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะ และดูแลความพร้อมของพนักงานขับรถ
รวมถึงกวดขันจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ในเวลาที่กำหนดเท่านั้น และไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี กรณีเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ดื่มแล้วขับแล้วเสียชีวิต ให้มีการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผู้ที่สนับสนุนให้เด็กดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งจุดบริการประชาชนโดยพิจารณาเลือกพื้นที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางช่องทางจราจร มีระยะห่างจากขอบทาง โดยเฉพาะพื้นผิวจราจรเปียก หรือมีน้ำขังจากการเล่นน้ำ ควรจัดให้มีเครื่องหมาย กรวย หรือป้ายแสดงให้เห็นจุดบริการ
สำหรับพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ จะต้องเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยและปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด (Zoning) โดยประสานตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน
รฟท.เตรียมรถเสริม 4 ขบวน สายเหนือ-อีสาน รองรับผู้โดยสารเดินทางช่วงสงกรานต์ ค่ำนี้