ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

3 วันรู้ผล "ประชาธิปัตย์" ตั้ง กก.สอบอดีตผู้สมัคร สส.มีความสัมพันธ์กับพระ

การเมือง
11 เม.ย. 67
10:30
4,053
Logo Thai PBS
3 วันรู้ผล "ประชาธิปัตย์" ตั้ง กก.สอบอดีตผู้สมัคร สส.มีความสัมพันธ์กับพระ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ประชาธิปัตย์” ตั้งกรรมการสอบอดีตผู้สมัคร มีความสัมพันธ์กับพระ ขีดเส้น 3 วันรู้ผล หากพบผิดจริงขับออกจากพรรคทันที

วันนี้ (11 เม.ย.2567) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อประเด็นที่มีภาพข่าวและคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นอดีตผู้สมัคร สส. และเป็นสมาชิกของพรรค มีความสัมพันธ์กับพระภิกษุ ซึ่งปรากฏในโซเชียลมีเดียว่า พรรคได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่วานนี้ (10 เม.ย.) ในช่วงเย็น ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว และได้ติดตามเก็บข้อมูลในทันที

รวมถึงตนในฐานะที่เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค จึงได้รายงานให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคทราบในทันที เนื่องจากเห็นว่าบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชน ตลอดจนต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องสถาบันครอบครัว ซึ่งเรื่องสำคัญดังกล่าวมีอยู่ในข้อบังคับพรรค หมวด 4 มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค ข้อที่ 26 ที่ให้สมาชิกพรรค ต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม ตามที่ข้อบังคับพรรคระบุไว้อย่างเคร่งครัด

เมื่อหัวหน้าพรรคได้ทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งในทันทีเพื่อตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นายธีรชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ อดีต สส.ชุมพร นายชริน เลี้ยงกาญจนกุล ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ และตนในการร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด

นายราเมศ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บุคคลที่อ้างดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2566 จนถึงปัจจุบัน หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองใด ๆ กับพรรค อีกทั้งไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค โดยในวันนี้คณะกรรมการฯ จะได้สอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน จากนั้นจะได้รายงานต่อคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป ซึ่งหากพบว่าสมาชิกพรรคคนดังกล่าวมีการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค ก็จะมีโทษถึงขั้นพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค

เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับสมาชิก พรรคจึงต้องดำเนินการตามกระบวนการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง

นี่คือความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง เมื่อมีสมาชิกพรรคกระทำการไม่ถูกต้อง พรรคก็ต้องคัดกรองบุคคล ซึ่งในข้อบังคับพรรคได้ระบุความชัดเจนไว้ว่า สมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของประชาชน ข้อบังคับพรรคยังให้ความสำคัญในเรื่องการเป็นแบบอย่างที่ดีในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง