วันนี้ (5 เม.ย.2567) น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ตาก ขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบในพื้นที่ จ.ตาก ให้กับบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ส่งผลกระทบต่อประชาชนเนื่องจากกากแร่ดังกล่าวอาจเป็นสารก่อมะเร็งได้นั้น
อ่านข่าว : ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ประกาศห้ามเข้าพื้นที่โรงงาน 90 วัน กรณีพบกากแคดเมียม 1.5 หมื่นตัน
ขอชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2566 ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม และ จ.สมุทรสาคร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 35 และมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 สั่งอายัดกากแคดเมียมและกากสังกะสีดังกล่าว
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม
พร้อมทั้งสั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ห้ามนำ กากแคดเมียมและกากสังกะสีเข้าสู่กระบวนการผลิต ให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงานเก็บและดำเนินคดีทะเบียนโรงงานตามกฎหมาย
อ่านข่าว : สะพรึง! ซุกกากแร่แคดเมียม 1.5 หมื่นตัน สั่งห้ามเข้าใกล้อาคารเก็บ
รมว.อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าวได้รับใบอนุญาตประกอบ โลหกรรมแร่สังกะสี และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานถลุงแร่สังกะสีและแคดเมียม ผลิตโลหะสังกะสีแท่ง สังกะสีอัลลอย โลหะแคดเมียม และผลิตโลหะทองแดง ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก
พบกากสังกะสี-แคดเมียม บรรจุในถุงขนาดใหญ่ ที่ จ.สมุทรสาคร จำนวนกว่า 15,000 ตัน สร้างความกังวลและอันตรายต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เพราะการปนเปื้อนของโลหะหนักชนิดนี้ เป็นสาเหตุของโรคอิไตอิไต ที่มีผลทำให้กระดูกสันหลังคดและมะเร็ง
ก่อนหน้านี้ได้ขอยกเลิกใบอนุญาตประกอบโลหกรรม แต่ยังคงไว้ซึ่งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน โดยได้ฝังกลบ (Landfill) กากแร่ ซึ่งอยู่ในรูปของโลหะผสมกับปูนซิเมนต์และยึดเกาะกันเป็นเนื้อแน่นไว้ในบ่อเก็บกากแร่ ซึ่งปูพื้นและปิดทับด้วยวัสดุกันซึม (HDPE) และคอนกรีต ซึ่งเป็นไปตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม
เมื่อเดือน ก.ค.2566 บริษัทได้ทำการขนย้ายกากแคดเมียม กากสังกะสี ออกจากโรงงานเพื่อนำกลับไปใช้ประโยชน์ โดยโรงงานใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการหลอมหล่ออลูมิเนียมแท่ง อลูมิเนียมเม็ด จากเศษอลูมิเนียมและตะกรันอลูมิเนียม (SCRAP AND DROSS) และได้เริ่มทำการขนย้ายกากที่บรรจุในถุงบิ๊กแบ็ก ตั้งแต่เดือน ส.ค.2566 ถึงปัจจุบัน รวมประมาณ 13,450 ตัน
อ่านข่าว : รู้จักโลหะหนัก "แคดเมียม" สารตั้งต้น "โรคอิไตอิไต"
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้ตรวจสอบโรงงานดังกล่าว พบว่า มีการดำเนินการที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงได้อายัดกากแคดเมียม กากสังกะสี และส่วนของอื่น ๆ ไว้เพื่อตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมายแล้ว
พบกากสังกะสี-แคดเมียม บรรจุในถุงขนาดใหญ่ ที่ จ.สมุทรสาคร จำนวนกว่า 15,000 ตัน สร้างความกังวลและอันตรายต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เพราะการปนเปื้อนของโลหะหนักชนิดนี้ เป็นสาเหตุของโรคอิไตอิไต ที่มีผลทำให้กระดูกสันหลังคดและมะเร็ง
ส่วนบริษัทในพื้นที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เพื่อเก็บตัวอย่างกากแคดเมียม กากสังกะสี ตรวจวิเคราะห์ และสั่งการให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการในส่วนของนำกากแคดเมียม กากสังกะสี ออกนอกบริเวณโรงงาน และให้นำกลับมาดำเนินการให้เป็นตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดไว้ในเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานโดยเร่งด่วนต่อไป
พบกากสังกะสี-แคดเมียม บรรจุในถุงขนาดใหญ่ ที่ จ.สมุทรสาคร จำนวนกว่า 15,000 ตัน สร้างความกังวลและอันตรายต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เพราะการปนเปื้อนของโลหะหนักชนิดนี้ เป็นสาเหตุของโรคอิไตอิไต ที่มีผลทำให้กระดูกสันหลังคดและมะเร็ง
เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา กรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญอธิบดี กรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ตัวแทนอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ตัวแทนอธิบดีกรมอนามัย และผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) มาให้ข้อมูลจึงทราบว่าก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้อายัดกากแร่ดังกล่าวไว้แล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งดิฉันได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วน เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดพร้อมทั้งให้รายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ
อ่านข่าวอื่น ๆ
สะพรึง! ซุกกากแร่แคดเมียม 1.5 หมื่นตัน สั่งห้ามเข้าใกล้อาคารเก็บ
รู้จักโลหะหนัก "แคดเมียม" สารตั้งต้น "โรคอิไตอิไต"