วันนี้ (27 มี.ค.2567) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีลาว พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ 54 ราย และพบสัตว์ป่วยตาย ตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.ว่า ตั้งแต่ปี 2544 ไทยไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคนี้แต่แต่หลังมีรายงานการเกิดโรคลาว ได้กำชับให้กรมควบคุมโรคประสานหน่วยงานในพื้นที่เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์
โดยเฉพาะด่านช่องทางเข้าออกที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว หากพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับโรคแอนแทรกช์ จะมีการสอบสวนโรคและรายงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทันที
สำหรับประชาชน หากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งหน่วยงานปศุสัตว์ในพื้นที่ หรือแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญ ห้ามสัมผัสเคลื่อนย้ายซากหรือชำแหละเพื่อการบริโภคโดยเด็ดขาด และหากมีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยแล้วมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ
อ่านข่าวอื่น : ก้าวไกลโพสต์ย้อนเส้นทางกว่าจะถึง "สมรสเท่าเทียม"
ปลัดสธ.กล่าวอีกว่า จากการติดตามข้อมูลของลาว พบว่ามีการออกประกาศแนว ทางควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ทั้งห้ามซื้อขายและเคลื่อนย้ายสัตว์เข้าออกภายในเมืองโดยเด็ดขาด ห้ามโรงฆ่าสัตว์ชำแหละโค-กระบือในเมือง
ห้ามประกอบอาหารจากสัตว์ที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ให้เจ้าของกักขังสัตว์เลี้ยงของตนเพื่อติดตามอาการ หากสัตว์ป่วยซึม ไม่กินอาหาร ขาบวม ท้องโต ให้แยกออกจากฝูงแล้วทำการรักษา และให้ติดตามเฝ้าระวังสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด หากเกิดโรคให้รายงานสัตวแพทย์ในพื้นที่
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
สำหรับโรคแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียแบบเฉียบพลันจากเชื้อ Bacillus anthracis เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดหลังสัมผัสเชื้อขณะชำแหละสัตว์ป่วย หรือสัมผัสซากสัตว์ที่ป่วยตาย โดยเฉพาะวัว ควาย หรือสัตว์กินหญ้า
อาการป่วยแบ่งเป็น 3 ระบบตามการสัมผัสเชื้อ คือ 1.อาการทางผิวหนัง จะมีแผลลักษณะคล้ายบุหรี่จี้บริเวณที่สัมผัสเชื้อ คือ แผลเป็นสีดำและขอบบวมแดง 2.อาการระบบทางเดินอาหาร จากการรับประทานเนื้อสัตว์ป่วยตายดิบๆ หรือปรุงไม่สุก ทำให้มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องอย่างรุนแรง มีอัตราป่วยตายร้อยละ 50-60
และ 3.อาการระบบทางเดินหายใจ จากการหายใจเอาสปอร์เชื้อเข้าไป ทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หายใจขัด หายใจลำบาก หน้าเขียวคล้ำ ปอดอักเสบ และเสียชีวิตได้ อัตราการป่วยตายสูงถึงร้อยละ 80–90 แต่มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะแพร่โรคจากคนสู่คน
อ่านข่าวอื่น : "จักรภพ เพ็ญแข" ประกาศกลับไทย 28 มี.ค.ขอไปรับใช้เมืองไทย
ปศุสัตว์สกัดโคลอบนำเข้า127 ตัว
นายชัยวัฒน์ โยธคล รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานของชุดเฉพาะกิจพญานาคราช ที่ปฏิบัติการป้องกันการลักลอบนำเข้าโค-กระบือ จากประเทศเมียนมา พบการกระทำผิดในการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ โดยจับกุมตัวผู้กระทำผิด และสามารถยึดอายัดโค 127 ตัว ในพื้นที่ต.แม่ต้าน และต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ปลายทางไปอ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ มีผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 11 คน และไม่มีหลักฐานใบอนุญาตการเคลื่อนย้ายสัตว์ภายในเขตเฝ้าระวังโรคระบาด (ร.3)
จึงแจ้งความผิดฐานลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ ในเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ชนิดปากและเท้าเปื่อยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ตามมาตรา 22 ประกอบกับมาตรา 34 แห่งพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ 2558
อ่านข่าวอื่น : ไทม์ไลน์ครึ่งปี "วงการสีกากี" มีแต่คำว่า "บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก และ เว็บพนันออนไลน์"