วันนี้ (19 มี.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่) โดยได้เห็นชอบในหลักการโครงการของกลุ่มจังหวัดและจังหวัด รวม 9 โครงการ กรอบวงเงิน 155 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการของโครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชน 4 โครงการ กรอบวงเงิน 145 ล้านบาท
สำหรับโครงการของจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด 9 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy tourism สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน วงเงิน 20 ล้านบาท
2. โครงการ A Cup to Village เพิ่มขีดความสามารถการเป็นนวัตกรด้านชาและกาแฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน วงเงิน 15 ล้านบาท
3. โครงการยกระดับสินค้าและบริการด้านสุขภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 วงเงิน 15 ล้านบาท
4. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 26.12 ล้านบาท
5. โครงการยกระดับการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรมูลค่าสูง ตามแนวทางตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ จ.พะเยา วงเงิน 23.88 ล้านบาท
6. โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยกระดับการท่องเที่ยวน่านสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง วงเงิน 14 ล้านบาท
7. โครงการน่านเมืองเก่ามีชีวิต สร้างสรรค์ เมืองแห่งวัฒนธรรมสู่มรดกโลก วงเงิน 21 ล้านบาท
8. โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง (กาแฟ) จ.น่าน วงเงิน 15 ล้านบาท
9. โครงการยกระดับการผลิตภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า จ.แพร่ วงเงิน 5 ล้านบาท
โครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชน 4 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1202 ตอนควบคุม 0200 ตอน สันต้นแหน - ป่าแดด ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด จ.เชียงราย วงเงิน 50 ล้านบาท
2. โครงการอํานวยความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท
3. โครงการพลิกโฉมถนนสายวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ Soft Power พะเยา วงเงิน 25.88 ล้านบาท
4. โครงการสูบน้ำขึ้นดอย สอย PM2.5 สร้างป่าคาร์บอนเครดิต วงเงิน 20 ล้านบาท
ส่วนโครงการที่ถูกตัดให้ไปใช้งบประมาณประจำปี ได้แก่ โครงการเชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท และโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองเก่าแพร่ วงเงิน 45 ล้านบาท
อ่านข่าว : งดงาม! ผ้าลายดอกสารภี-ผ้าคล้องคอ "ลายนกยูง" รับครม.พะเยา
สั่ง "คมนาคม" ศึกษาความเป็นไปได้สร้างสนามบินพะเยา
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้มีข้อหารือในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งจัดทำสำนักงานท่องเที่ยวประจำจังหวัดและศึกษาถึงการประกาศให้ จ.พะเยา เป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อีกทั้งให้กระทรวงคมนาคมศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินพะเยา ตามที่ได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 18 มี.ค. พร้อมย้ำว่าต้องตั้งสำนักงานท่องเที่ยวประจำ จ.พะเยา ให้ได้ภายในไตรมาส 4 นี้
อ่านข่าว : ชงของบ ครม.สัญจร 100 ล้านศึกษาอีไอเอ "สนามบินพะเยา"
ก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การประชุม ครม.สัญจรพะเยา ในวันที่ 19 มี.ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาจะเสนอผลักดันโครงการก่อสร้างสนามบินพะเยา มูลค่า 3,000 ล้านบาท ให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ เนื่องจากที่ผ่านมามีผลการศึกษาโครงการแล้ว หาก ครม.เห็นด้วยจะของบฯ 100 ล้านบาท เพื่อศึกษารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของโครงการฯ
และในวันนี้ (19 มี.ค.) ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงความเป็นไปได้ของการสร้างสนามบินพะเยา ว่า รัฐบาลที่แล้วได้ศึกษาเบื้องต้น โดยกรมท่าอากาศยานได้จัดงบประมาณบางส่วนในการศึกษาแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ขณะที่นายกรัฐมนตรีต้องการสร้างเมืองรองให้เป็นแหล่งแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากที่ลงพื้นที่ จ.พะเยา มาแล้ว 2-3 วันก็จะเห็นถึงความพร้อม ส่วนกระบวนการศึกษาขอให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ก็ได้ลงพื้นที่ด้วยเช่นกัน
อ่านข่าวอื่นๆ
"หมอชลน่าน" ยันไม่ใช่ข้อมูล รพ.สังกัด สธ.หลุด 2.2 ล้านชื่อ
"เศรษฐา" นัดถกบอร์ดดิจิทัล 1-2 สัปดาห์ ยาหอมยังมีหวังได้เงิน