วันนี้ (13 มี.ค.2567) นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีแผนรองรับ กกต. มีมติยื่นคำร้องยุบพรรค ต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ในขณะนี้ยังคงเตรียมเรื่องของการต่อสู้คดีในทางกฎหมาย พร้อมกับการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติในทุกวันให้ดีที่สุด
อ่านข่าว : มติ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ยุบ "ก้าวไกล" ปมแก้ ม.112
เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ถูกมองเป็นสารตั้งต้นนำไปสู่การยุบพรรค นายชัยธวัช ระบุว่า ยังคงต่อสู้เต็มที่และต้องยอมรับว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจทำให้ต่อสู้ได้ยากมากกว่าคดีอื่น แต่ยังคงต่อสู้เต็มที่ ว่ามีเหตุผลอย่างไรถึงจะมีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล
และเห็นว่าตามกระบวนการปกติศาลจะต้องมีการไต่สวน หรืออย่างน้อยที่สุดศาลจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องหรือพรรคก้าวไกลได้แก้ข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องได้เสนอทั้งข้อเท็จจริงและพยานผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้คดี แต่หากไม่เปิดไต่สวนเห็นว่าเป็นดุลยพินิจของศาล เพราะเมื่อไหร่ที่ศาลมีข้อเท็จจริงเพียงพอก็มีสิทธิ์ที่จะยุติการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ แต่หน้าที่ของผู้ร้องคงต้องต่อสู้ให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงให้มากที่สุด
อ่านข่าว : ปธ.กกต.ปัด "ใบสั่ง" ยุบก้าวไกล ส่วน "ยุบภูมิใจไทย" ยังรวบรวมหลักฐาน
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกันไปถึงกรณีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล แต่ชี้บทเรียนที่สำคัญ เป็นบทเรียนของสังคมไทยและผู้มีอำนาจรัฐมากกว่า ว่าการยุบพรรคการเมืองไม่ได้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองแต่อย่างใด แต่ซ้ำร้ายนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมืองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งสวนทางกับความคาดหวังของประชาชนที่มีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการรัฐประหาร
“ซ้ำร้ายการยุบพรรคการเมืองโดยอ้างเหตุผลเรื่องการล้มล้างการปกครองการเซาะบ่อนทำลายสถาบันในทางด้านกลับ เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน เพราะยิ่งดึงประเด็นสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง”
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังคงย้ำเรื่องของกระบวนการต่อสู้คดี และยอมรับว่ามีโอกาสที่จะชนะคดีน้อยแต่ก็จะพยายามสู้อย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ตอบเรื่องของการตั้งพรรคสำรอง
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่หากมีการยุบพรรคแล้วจะเกิดกรณีดูด สส.พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ระบุว่าผมเป็นห่วงสังคมไทยมากกว่า และให้ลองจินตนาการถึงสังคมไทยหลังจากนี้ กำลังเข้าสู่วังวนแบบเดิมๆ ที่หาทางออกไม่เจอ และจะถลำลึกต่อไปมากขึ้น และการยุบพรรคการเมืองจากเหตุที่กล่าวหาล้มล้างการปกครองและบ่อนทำลายสถาบัน ไม่มีผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แต่ประการใดขอยืนยันในเรื่องนี้
นายชัยธวัช ยังกล่าวต่อว่า ไม่ใช่หน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่ต้องตรวจสอบกระแสข่าว สส. ในพรรคบางคนเข้าไปหารือกับพรรคฝั่งรัฐบาล ชี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลซึ่งเป็นปัญหาวิธีการการเมืองแบบเดิมๆ ที่ควรจะหมดไปได้แล้ว รวมถึงการคิดจะเอาชนะทางการเมืองด้วยการยุบพรรคการเมืองซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญของสังคมไทยที่ไม่ได้ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นมีแต่แย่ลง โดยมั่นใจว่าผู้แทนราษฎรที่ดีก็คือผู้แทนราษฎรที่ดี เรื่องนี้ไม่มีใครสามารถบังคับจิตใจกันได้ แต่พรรคมีหน้าที่เตรียมทุกทางออกให้กับสมาชิก
อ่านข่าว : ก้าวต่อไป! "พิธา" โพสต์สื่อความหมายหลัง กกต.ชงมติยุบก้าวไกล
นอกจากนี้นายชัยธวัช บอกไม่ทราบถึงกระแสข่าวว่าการยุบพรรคการเมืองเป็นความพยายามสกัดกั้นพรรคก้าวไกลโดยกลุ่มอำนาจ ที่อาจจะมีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเข้าไปมีส่วนร่วม พร้อมระบุว่าเรื่องยุบพรรคไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำใจ หลังมีบุคคลในพรรคอย่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลโพสต์ในลักษณะการตัดพ้อ
อ่านข่าว : ไม่เกี่ยง “ก้าวไกล” ร่วมวงหรือไม่ ปชป.จองกฐินปม “ทักษิณวีไอพี”
จับกระแสการเมือง 12 มี.ค.67 วิบากกรรมสุดท้าย “ก้าวไกล” ลุ้นยุบพรรค-เพื่อไทย พา "ทักษิณ" ปิ๊กบ้าน
"พรรคก้าวไกล" ลุ้นเหนื่อย “ยุบพรรค” อย่ามองข้าม “ตายสิบเกิดแสน”