สำนักข่าว BBC รายงานว่า ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก และเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น กําลังวางกฎระเบียบใหม่ ด้วยการให้ผู้ที่จะขึ้นไปพิชิตภูเขาไฟฟูจิ ยอดเขาอันโด่งดังที่มีความสูง 3,776 เมตร จะต้องเสียค่าธรรมเนียมราว 13 ดอลลาร์ หรือเกือบ 500 บาทไทย
หนึ่งในการวางระเบียบครั้งนี้ เนื่องจากในแต่ละปีจะมีผู้ปีนขึ้นไปฟูจิมากกว่า 220,000 คน ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ของทุกปี แต่เส้นทางที่คับแคบ การแออัดของนักปีนเขาแล้ว ยังคงมีขยะเกลื่อนกลาดตามทาง
ความแออัดของนักปีนเขาบริเวณฐานของภูเขาไฟ ส่งผลให้เกิดปริมาณขยะตามมา และนักปีนเขาที่ไม่เหมาะสมบางคนพยายามเดินขึ้นด้วยรองเท้าแตะซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับการปีนภูเขาสูง
นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นฟูจิปีละ 200,000 คนบนยอดเขาสูง 3,776 เมตรเพื่อสัมผัสแสงแรก
เพื่อบรรเทาความแออัดบนสภาจังหวัดยามานาชิ ดูแลจุดขึ้นภูเขาไฟฟูจิยอดนิยมได้ลงมติในสัปดาห์นี้ให้มีการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมที่ 2,000 เยน หรือ 478 บาทต่อนักปีนเขาหนึ่งคน โดยจะเริ่มเก็บตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ พร้อมทั้งจํากัดนักปีนเขาเพียง 4,000 คนต่อวันเท่านั้น
Koutaro Nagasaki ผู้ว่าการจังหวัดยามานาชิกล่าวว่า ด้วยการส่งเสริมมาตรการความปลอดภัยที่ครอบคลุมสําหรับการปีนภูเขาไฟฟูจิอย่างจริงจัง จะต้องทําให้แน่ใจว่าภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นสมบัติของโลกจะถูกส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไปในอนาคต
ข้อมูลของจังหวัดยามานาชิ พบว่ามีผู้นักปีนภูเขาไฟฟูจิมากถึง 5 ล้านคนในปี 2019 เพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านคนในปี 2012