วราวุธมอบโล่ "วันสตรีสากล" ไทยพีบีเอส รับสาขาสื่อมวลชน

• เช็ก 11 ข้อเรียกร้อง "วันสตรีสากล" ลาคลอด180 วัน-ขอหยุด 8 มี.ค.
  
  
• วธ.ตั้ง "แอนโทเนีย" เป็น "นางมโหธรเทวี" นางสงกรานต์ปี 67

วันนี้ ( 8 มี.ค.2567) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในงานวันสตรีสากล ประจำปี 2567 จัดโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ภายใต้แนวคิด “เสริมพลังสตรีและเด็กหญิง ขจัดความยากจนสู่ความเท่าเทียมระหว่างเพศ บนพื้นฐานครอบครัวที่อบอุ่น”

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)

นายวราวุธ กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 8 มีนาคมของทุกปีนั้น องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้เป็นวันสตรีสากล และประเทศไทยของเราได้เฉลิมฉลองวันสตรีสากลมาเป็นเวลา 36 ปี โดยภายในงานจะนำเสนอถึงการส่งเสริม พัฒนา สนับสนุนบทบาทสตรีทุกภาคส่วนของสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเมือง ให้มีการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันระหว่างเพศ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงการขจัดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่องค์การสหประชาชาติกำหนดไว้

งานวันสตรีสากล ประจำปี 2567 จัดโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.)

นายวราวุธ กล่าวว่า งานวันสตรีสากลปีนี้ จะมีการมอบรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติแก่สตรี บุคคล และหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานด้านสตรีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และจะมีการจัดแสดงนิทรรศการเครือข่ายด้านสตรีทั่วประเทศ ประชาชน และความเสมอภาคทางเพศ โดยในวันเดียวกันนั้น ทางจังหวัด โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในวันสตรีสากลเช่นเดียวกัน เพื่อสริมพลัง สร้างโอกาส และพัฒนาคนทุกช่วงวัย และพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคี อาทิ อนุสัญญา CEDAW ปฏิญญาปักกิ่ง

และ SDG เป้าหมายที่ 5 โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาสตรี (พ.ศ. 2566 - 2570) ขึ้นเพื่อเป็น Roadmap ของ พม. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีวิสัยทัศน์ คือ “สังคมไทยเป็นสังคมที่ตระหนักและเข้าใจถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ สตรีและเด็กหญิงจะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม

พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับที่สตรีดีเด่นใน วันสตรีสากล 2567

รมว.พม. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงฯได้ยกระดับการพัฒนาสตรี ผ่านโครงการมากมาย อาทิ การผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐ จัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ เพื่อเป็นหลักประกันว่าการใช้จ่ายงบประมาณได้คำนึงถึงความจำเป็นและความต้องการที่แตกต่างของเพศสภาพของบุคคล การผลักดันนโยบายที่เป็นมิตรต่อผู้หญิง ได้แก่ มาตรการส่งเสริมการลาของสามี

มาตรการขยายการลาคลอดของมารดา และมาตรการขยายบริการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและสถานรับเลี้ยงเด็ก การส่งเสริมบทบาทผู้หญิงให้เป็นผู้นำและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทุกระดับ การพัฒนากลไกเพื่อขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กหญิงทุกรูปแบบ รวมทั้งส่งเสริมบทบาทให้ก้าวสู่ระดับสากล การสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ภายใต้นโยบายวันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว ฯลฯ

น.ส.ชุตินธรา วัฒนกุล รับรางวัลสตรีดีเด่น ด้านสื่อมวลชน ประจำปี 2567

ทั้งนี้ในปี 2567 นี้พม. ได้จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับที่สตรีดีเด่นสาขาต่าง ๆ รวมถึง จำนวน 16 สาขา รวม 64 รางวัล โดย น.ส.ชุตินธรา วัฒนกุล บรรณาธิการบริหารด้านข่าวออนไลน์ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS ได้เข้ารับรางวัลจากรมว.พม.ด้านสื่อมวลชน การคุ้มครองสิทธิและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ประเภทสื่อโซเชียลมีเดีย ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “เสริมพลังสตรีและเด็กหญิง ขจัดความยากจน สู่ความเท่าเทียมระหว่างเพศ บนพื้นฐานครอบครัวที่อบอุ่น”

น.ส.ชุตินธรา วัฒนกุล บรรณาธิการบริหารด้านข่าวออนไลน์ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS

น.ส.ชุตินธรา กล่าวว่า รางวัลสตรีดีเด่น ด้านสื่อมวลชน ที่ได้ในรับ เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจในการทำหน้าที่สื่อมวลชน ของข่าวไทยพีบีเอส ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่า เราไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่การนำเสนอ หรือรายงานข่าวเท่านั้น แต่วิธีการนำเสนอของข่าวไทยพีบีเอส จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็ว และรอบด้าน ซึ่งรวมไปถึงข่าวที่ประชาชนควรรู้ และต้องรู้ เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ครบถ้วนให้กับผู้ชม

อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สื่อกลางที่เข้าถึงประชาชนและพร้อมจะร่วมหาทางออกของปัญหาต่าง ๆ ให้สังคม จึงอยากให้ผู้ชมวางใจ และมั่นใจในข่าวคุณภาพของไทยพีบีเอส ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไทยพีบีเอส ในฐานะสื่อสาธารณะที่สร้างสรรค์สังคมคุณภาพและคุณธรรม ยึดหลักจริยธรรมสื่อมวลชนเป็นที่ตั้ง เพื่อเป็นพื้นที่ผลิตและสร้างสรรค์รายการ

"ไทยพีบีเอส เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและสมดุลแก่ประชาชนอย่างรอบด้าน เพื่อให้ข่าวไทยพีบีเอส เป็นข่าวที่ผู้ชมวางใจ ปราศจากการถูกแทรกแซงหรืออคติชี้นำ ยืนหยัดในความเที่ยงตรง เป็นธรรม ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เป็นที่พึ่งพิงได้ของประชาชน “น.ส.ชุตินธรา กล่าว