นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กำหนดเดินทางกลับบ้านเกิด ไปไหว้บรรพบุรุษที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี วันที่ 14-16 มี.ค.
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำหนดตรวจงานที่ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย วันที่ 15-17 มี.ค. เพื่อติดตามปัญหา PM 2.5 และเรื่องยาเสพติด ก่อนไปต่อที่ จ.พะเยา ประชุม ครม.สัญจร 18-19 มี.ค.
ยังไม่ต้องนับคณะรัฐมนตรี คณะทำงาน ข้าราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ส.ส.และผู้ช่วย ส.ส. นักการเมืองท้องถิ่น ที่ต้องไปปรากฎตัวร่วมกิจกรรมใหญ่ที่นั่นอย่างพร้อมเพรียง
รวมถึงมวลชนและแกนนำคนเสื้อแดง ทั้งเชียงใหม่ และภาคเหนือ ที่นัดหมายเตรียมระดมพลล่วงหน้า รอต้อนรับ "ฮ้องขวัญ" นายทักษิณ ตั้งแต่ลงเครื่องบนที่สนามบินนานชาติเชียงใหม่
"การป๊ะกั๋น" หลายคนหลายฝ่ายกลางเดือนมีนาคม จะอลังการแค่ไหน
งานนี้ไม่ว่าจะยืนหรือนั่งรถวีลแชร์ จะได้เห็นภาพการโบกมือทักทายกองเชียร์ที่ไปรอต้อนรับแน่นสนามบิน ยังไม่นับที่ อ.สันกำแพง บ้านเกิด
สิ่งที่จะเกิดขึ้นที่เชียงใหม่ และรวมถึงการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.พะเยา ด้านหนึ่ง ถือเป็นเรื่องสะท้อนบารมี ความยิ่งใหญ่และการกลับมาเป็นคนสำคัญอีกครั้งของนายทักษิณ ที่จะสามารถดึงมวลชนเดิมที่เคยเปลี่ยนใจไปเลือกพรรคการเมืองอื่น ให้กลับใจมาเป็นแฟนคลับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
ฟันธงไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า ปัญหาที่ยืดเยื้อคาราคาซังหลายเรื่องในเชียงใหม่และภาคเหนือ จะถูกหยิบยกมาแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมและได้ผล ไม่ว่าจะเรื่องฝุ่น PM 2.5 และหมอกควันไฟป่า ที่คนล้านนาต้องเผชิญมานานกว่าสิบปี
เรื่องโครงข่ายถนนหนทางและการสัญจรตามแบบสมัยใหม่ เช่น รถไฟฟ้า และการสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 ของเชียงใหม่ จะเป็นรูปเป็นร่างมีไทม์ไลน์ชัดเจนขึ้น และปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ได้มาจากการสั่งลุยของ "นายใหญ่"
สส.หรือนักการเมืองที่เคยแปรพักตร์ หรือคนจากพรรคอื่น รวมทั้งคนหน้าใหม่ที่หวังจะได้ไปต่อบนเส้นทางการเมือง จะมุ่งหน้าสู่พรรคเพื่อไทยเป็นสำคัญ เผลอๆอาจถึงขั้นต้องแย่งชิงหรือหา "ตั๋วช้าง" เป็นตัวช่วย
เลือกตั้งครั้งที่แล้ว สำหรับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง "อุ๊งอิ๊ง" อาจไม่มีแรงดึงดูดมากพอ เพราะยังหน้าใหม่ และเป็นเพียงทายาท
ต่างจากครั้งนี้ นายทักษิณ สวมบท "พ่ออุ๊ยใหญ่" ที่แรงโน้มน้าวความศรัทธาและชื่นชม แทบไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นไปโดยอัตโนมัติด้วยต้นทุนที่เคยสร้างไว้
การรวมพล "ป๊ะกั๋น" กลางเดือนมีนาคม จึงสะท้านทั้งเชียงใหม่ สะเทือนทั้งภาคเหนือ และกระทบพรรคการเมืองอื่น โดยจะเห็นผลชัดแจ้งในการเลือกตั้งท้องถิ่นปี หน้าเป็นประเดิม หากรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ มี "ผลงานปัง" หรือสามารถผลักดันดิจิทัลวอลเล็ต คนละ 1 หมื่นบาทแจกได้สำเร็จ
คู่แข่งสำคัญอย่างพรรคก้าวไกล จะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบพรรคเพื่อไทยทันที
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา