วันนี้ ( 7 มี.ค.2567) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล โดยเฉพาะเทศกาลมหาสงกรานต์ ที่กำหนดให้มีถึง 21 วัน หรือเทศกาลต่าง ๆ ในวันหยุดยาว จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจในภาคบริการกระเตื้องขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบวกของเศรษฐกิจไทย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเกี่ยวกับการซื้อบ้าน และรถยนต์ยังดีต่อเนื่อง เป็นสัญญาณของความพร้อมในการจับจ่ายใช้สอยที่บวกขึ้นตามลำดับ
เศรษฐกิจไทยจะถูกจุดติดในเดือนเม.ย. 67 เป็นต้นไป หลังจากงานมหาสงกรานต์ 21 วัน การท่องเที่ยวน่าจะคึกคักขึ้น ประกอบกับเงินงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งสำนักงบประมาณคาดว่าจะลงในราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. น่าจะทำให้เดือนเม.ย.-พ.ค. 67 หรือไตรมาส 2/67 เศรษฐกิจไทยน่าจะเริ่มพลิกฟื้นขึ้น
นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าในไตรมาส 1/67 เศรษฐกิจน่าจะโตร้อยละ 2 และเม.ย. 67 ที่จะมีสงกรานต์ และงบประมาณ จะทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/67 โตได้ร้อยละ 2.5-3
ดังนั้น หอการค้าไทยจะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในวันที่ 19 มี.ค. นี้ โดยตอนนี้ประเมินไว้ที่ร้อยละ 3.2จะรอดูประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
สำหรับเงินสะพัดช่วงสงกรานต์ ปกติแล้วจะประเมินเงินสะพัดช่วงสงกรานต์อยู่ที่ประมาณ 130,000-140,000 ล้านบาท ในส่วนของปีนี้ยังไม่ได้ทำการประเมิน แต่ถ้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับมีงานมหาสงกรานต์ 21 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-21 เม.ย. 67 เงินใช้จ่ายในช่วงสงกรานต์อาจขยายตัวมากกว่าเดิม 5,000-10,000 ล้านบาท
เม็ดเงินที่จะเพิ่มขึ้น 50,000 ล้านบาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้มีการขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 0.2-0.3 แต่ ต้องดูบรรยากาศของเศรษฐกิจโลก และบรรยากาศของการจัดงานสงกรานต์ด้วยว่าจะคึกคักมากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า บรรยากาศของนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 3 ล้านคน ถ้าเทียบกับปีก่อนเข้ามาเดือนละ 1-1.5 ล้านคน ซึ่งสะท้อนว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1-2 ล้านคนในช่วงสงกรานต์ ถ้าดูเฉพาะนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ถ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 1-1.5 ล้านคน
นักท่องเที่ยวใช้เงินเฉลี่ยประมาณ 42,000 ล้านบาท เงินก็น่าจะสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท รวมกับนักท่องเที่ยวไทยที่ใช้เงินในช่วงสงกรานต์มากขึ้น 5,000-10,000 ล้านบาท ภาพรวมเศรษฐกิจไทยอาจมีเม็ดเงินหมุนเวียนมากขึ้น 50,000 ล้านบาท
"สินเชื่อทะเบียนรถ" พุ่ง ส่งผล"หนี้ครัวเรือน" อ่วม 16.2 ล้านล้าน
จับตา"ราคาทองคำ"เฉียดบาทละ 3.8 หมื่นบาท ปลายไตรมาส 2
"เมียนมา"ติดท็อปชาร์ต แห่ซื้อคอนโดไทย หนีสงครามกลางเมือง