วันนี้ (2 มี.ค.2567) เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รังวัดสิ่งปลูกสร้าง ของวิลลาหรู ริมหาดยามู จ.ภูเก็ต หลังเกิดคดีชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายแพทย์หญิง
พบการรุกล้ำชายหาดสาธารณะ รวม 4 จุด คือ บันไดคอนกรีต, บันไดไม้, ลานไม้ และแนวกำแพงกันดินหินกล่อง โดยนายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ให้ดำเนินคดีกับริษัทเอกชน ผู้ประกอบการวิลล่า และสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวน จะออกหมายเรียก ให้มารับทราบข้อกล่าวหา
ทั้งนี้จากการตรวจสอบการปลูกสิ่งก่อสร้างของวิลลาที่เป็นจุดเกิดเหตุเพิ่มเติม พบการปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ (ชายหาด) นอกเหนือจากบันไดคอนกรีตขั้นที่ 2-4 ที่เป็นจุดเกิดเหตุการณ์แพทย์หญิงและเพื่อนไปนั่งที่บันไดคอนกรีตชั้นที่ 4 ยังมีอีก 2 จุดที่ทางเจ้าหน้าที่สั่งให้มีการรื้อถอน คือ บันไดไม้และลานนั่งเล่นไม้ วันนี้มีหนังสือคำสั่งมาติดตั้ง ในรื้อถอนภายใน 30 วัน
อ่านข่าว : ตรวจสอบบันไดวิลลาริมหาดยามู นายอำเภอถลางสั่งรื้อรุกพื้นที่สาธารณะ
ผัดฟ้องคดีทำร้ายร่างกายแพทย์
ส่วนคดีทำร้ายร่างกาย พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร เปิดเผยว่า วันนี้ครบกำหนดส่งตัว นายเดวิด ชาวสวิสเซอร์แลนด์ และสำนวน ให้อัยการพิจารณา แต่คดียังอยู่ในระหว่างสอบสวน และยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน ตำรวจจึงขอผัดฟ้องออกไปก่อน
ส่วน นายเดวิด ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจาก นายเดวิด เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเอง
- ฝรั่งเตะหลัง-ภรรยาชาวไทย "ขอโทษ" พญ.ผ่านสื่อ อ้างไม่ได้ตั้งใจทำร้าย
- รองผู้ว่าฯ ภูเก็ตย้ำไม่ให้ชาวต่างชาติมีอิทธิพล-ทำผิดกฎหมาย
อ้างชาวต่างชาติเคยขวางรถกู้ชีพ
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก เผยแพร่คลิป จากกล้องหน้ารถกู้ชีพ อ้างว่า ชายต่างชาติและภรรยาชาวไทย ขับรถป้ายแดงแช่ขวา ขวางรถกู้ชีพ ที่กำลังเดินทางไปส่งวัคซีน แม้รถกู้ชีพจะบีบแตรส่งสัญญาณให้หลีกทาง แต่คนขับรถหรูป้ายแดง กลับชูนิ้วให้ และ แจ้งความเอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับฝ่ายรถกู้ชีพ ฐานเผยแพร่คลิป
ยันธุรกิจปางช้างจดทะเบียนถูกต้อง
สำหรับการประกอบธุรกิจปางช้าง ของนายเดวิด ซึ่ง นายเดวิด ชี้แจงเมื่อวาน (1 มี.ค.) ว่า ธุรกิจปางช้าง มีช้างในความดูแล 15 ตัว ส่วนการตั้งมูลนิธิ เป็นคนละส่วนกัน ซึ่งมูลนิธิฯ ยังไม่มีเม็ดเงินเข้ามา และดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบ พบว่า นายเดวิด และภรรยา มีธุรกิจปางช้าง ที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และจดทะเบียนกับกรมธุรกิจการค้า ในนามบริษัท อีเลเฟนท์ แซงชัวรี่ พาร์ค ภูเก็ต จำกัด ตามข้อมูลจดทะเบียนตั้งเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2560 ทุนจดทะเบียนปัจจุบันคือ 4 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการสัญชาติไทย และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีชื่อภรรยานายเดวิด เป็นกรรมการบริษัท
ช่วงวิกฤติโควิด-19 ปี 2563 - 2564 ประสบภาวะขาดทุน และกลับมามีกำไรในปี 2565 โดยรายได้รวม 46 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 7 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 21 ล้านบาท
สำหรับปางช้างแห่งนี้ กำหนดค่าเข้าชมจากนักท่องเที่ยวคนละ 2,500 บาท และเด็ก 1,000 บาท ระบุว่าเป็นค่ารถรับส่งจากโรงแรมที่พักมาถึงปางช้าง ค่าป้อนอาหารช้าง เล่นกับช้าง และบริการอาหารไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะใช้เวลาอยู่ภายในปางช้างเกือบ 2 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
คดีฝรั่งทำร้ายหมอ อาฟเตอร์ช็อก ! ราคาที่ดินติดชายหาดภูเก็ต
“แพทย์หญิง” ยันดำเนินคดีต่างชาติทำร้ายถึงที่สุด นายกเล็ก ชี้เป็น “พื้นที่สาธารณะ”