วันนี้ (29 ก.พ.2567) เกษตรกร จ.กำแพงเพชร นำที่ดิน 4 ไร่ ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในการกู้ยืมเงินจากธนาคาร จนเกือบถูกธนาคารยึด เพราะไม่สามารถหาเงินไปชำระหนี้ได้ และยังต้องไปกู้เงินนอกระบบมาหมุน จนมีหนี้สิน เพิ่มเป็น 500,000 บาท แต่หลังร่วมโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยไกล่เกลี่ย และ รวมหนี้ไปไว้กับ ธกส. ซึ่งมีดอกเบี้ยถูกกว่า
อีกคนหนึ่งชาว จ.เชียงใหม่ มีเจ้าหนี้นอกระบบกว่า 10 ราย ต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย วันละกว่า 10,000 บาท แม้จะลงทะเบียนเข้าโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ แต่กลับไม่มีความคืบหน้า จึงติดต่อเจ้าหนี้ด้วยตัวเองเพื่อขอผ่อนจ่าย ปัจจุบัน เหลือเจ้าหนี้ 5 ราย และเหลือหนี้ที่ต้องจ่ายคืน รายละ 100 บาท หรือ 500 บาท/วัน
บางคน "พบข้อจำกัดในการไกล่เกลี่ยหนี้" อย่างอดีตข้าราชการบำนาญ ลงทะเบียนไกล่เกลี่ยหนี้ที่ จ.อุตรดิตถ์ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เขาถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งถ้าเป็นคดีความ จึงไม่มาสามารถรับมาไกล่เกลี่ยได้
ลูกหนี้ลงทะเบียนทางออนไลน์ ยังไร้การติดต่อ
บางคน "ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่" อย่างหญิงอายุ 46 ปี ชาวบุรีรัมย์ รับจ้างเย็บผ้าไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ชั่วโมง เพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้นอกระบบ ที่กู้ยืมมาจากหลายเจ้า ยอดหนี้กว่า 100,000 บาท จำเป็นต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ ทั้งต้นและดอก วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เธอลงทะเบียนเข้าโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบทางออนไลน์ แต่ผ่านมากว่า 1 เดือน ยังไม่ได้รับการติดต่อ จากเจ้าหน้าที่
ส่วนหญิง อายุ 51 ปี ที่ จ.นนทบุรี บอกว่าตั้งแต่ไปลงทะเบียนไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ เจ้าหนี้ 11 เจ้าก็ไม่มาทวงหนี้ หรือข่มขู่อีกเลย คาดว่า เจ้าหนี้ "ทิ้งหนี้" เพราะไม่อยากถูกไล่บี้ หลังจากนี้จะเดินหน้าขอสินเชื่อกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินทุนของรัฐ มาเป็นทุนประกอบอาชีพ แต่ยังกังวลว่าคุณสมบัติจะผ่านเงื่อนไขหรือไม่
และมีลูกหนี้อีกหลายคน เลือกที่จะไม่เข้าโครงการแก้หนี้นอกระบบ เพราะกลัวมีปัญหากับเจ้าหนี้ และกังวลว่าหากต้องการใช้เงิน จะไม่สามารถกู้ยืมได้อีก เพราะบางคนไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับกู้เงิน กับสถาบันการเงิน จึงยังต้องพึ่งพาการกู้นอกระบบ
ยังลงทะเบียนหนี้ทางออนไลน์ได้ถึงเที่ยงคืน
วันนี้ (29 ก.พ. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท. เปิดเผยถึงผลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วันที่ 91 โดยสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานผลการลงทะเบียนพบว่า มีประชาชนลงทะเบียนแล้ว 151,175 ราย มูลหนี้รวม 11,732.506 ล้านบาท เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 125,081 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 27,348 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 125,302 ราย มท.ยืนยันเดินหน้ากระบวนการไกล่เกลี่ยให้ครบ 100% ควบคู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต
จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร ยังคงมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 10,091 ราย เจ้าหนี้ 9,047 ราย มูลหนี้ 1,065.464 ล้านบาท
- นครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 6,115 ราย เจ้าหนี้ 5,887 ราย มูลหนี้ 425.187 ล้านบาท
- สงขลา มีผู้ลงทะเบียน 5,570 ราย เจ้าหนี้ 4,589 ราย มูลหนี้ 383.455 ล้านบาท
- นครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 5,273 ราย เจ้าหนี้ 4,443 ราย มูลหนี้ 489.563 ล้านบาท
- สุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน 4,412 ราย เจ้าหนี้ 3,364 ราย มูลหนี้ 438.838 ล้านบาท
จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- แม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 250 ราย เจ้าหนี้ 251 ราย มูลหนี้ 16.274 ล้านบาท
- ระนอง มีผู้ลงทะเบียน 351 ราย เจ้าหนี้ 267 ราย มูลหนี้ 24.415 ล้านบาท
- สมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 406 ราย เจ้าหนี้ 316 ราย มูลหนี้ 18.819 ล้านบาท
- สิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 474 ราย เจ้าหนี้ 383 ราย มูลหนี้ 28.483 ล้านบาท
- ตราด มีผู้ลงทะเบียน 479 ราย เจ้าหนี้ 364 ราย มูลหนี้ 21.487 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามประชาชนยังคงลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ https://debt.dopa.go.th ภายในเวลา 24.00 น. ของวันนี้ โดยหลังจากที่ปิดรับลงทะเบียนแล้วหากมีประชาชนผู้ที่เดือดร้อนจากหนี้นอกระบบประสงค์จะขอความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถเดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ เพื่อให้ทางราชการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาได้
อ่านข่าวอื่น :
สศอ.ชี้ หนี้ครัวเรือนพุ่ง เศรษฐกิจฟื้นช้า กดดัชนี MPI หดตัว 2.94%
"สุทิน" ปฏิเสธ 2 ตระกูลฮั้วประโยชน์ ทำไทยส่อเสียดินแดน "เกาะกูด"