วันนี้ (21 ก.พ.2567) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 20 ก.พ. 2567 เห็นชอบราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2565/66 ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตราที่ 1,197.53 บาทต่อตัน ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส.
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
และกำหนดอัตราขึ้น-ลงของราคาอ้อย เท่ากับ 71.85 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส.ให้ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 513.23 บาทต่อตัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งเพิ่มขึ้น117.53 บาทต่อตัน
โดยมีผลผลิตต่อปีประมาณ 113 ล้านตัน จากราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2565/66 ที่ราคา 1,080 บาทต่อตัน ซึ่งการที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยมีรายได้เพิ่มขึ้นจะสามารถเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง
ไร่อ้อย
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบราคาอ้อยขั้นต้น ปี 2566/67 ในอัตรา 1,420 บาทต่อตัน ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. กำหนดอัตราขึ้น-ลง ของราคาอ้อยเท่ากับ 85.20 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 608.57 บาทต่อตัน เกษตรกรชาวไร่อ้อยจะได้รับค่าอ้อยสำหรับนำไปใช้เป็นเงินทุนในการเพาะปลูก การบำรุงรักษาอ้อย รวมถึงใช้จ่ายในครัวเรือน
ราคาขั้นสุดท้ายที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอทำให้ชาวไร่อ้อยได้รับเงินเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 13,280 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งโรงงานน้ำตาลให้ทยอยจ่ายเงินเพิ่มให้กับชาวไร่อ้อยแล้ว
ส่วนราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2566/2567 ในอัตรา 1,420 บาทต่อตัน ซึ่งถือว่ามีราคาสูงมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ และเมื่อเทียบกับราคาอ้อยขั้นต้นปีก่อน คิดเป็นเงินที่เพิ่มขึ้นกว่า 38,420 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อรายจะมีเงินเพิ่มขึ้นเกือบแสนบาท
ชาวไร่อ้อยกำลังเก็บเกี่ยวอ้อย
ด้านนายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2565/66 และราคาอ้อยขั้นต้น ปี 2566/67 สอน. จะดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ถือว่าไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม สอน. ได้ติดตามสถานการณ์ผลผลิตอ้อยเข้าหีบและเฝ้าระวังการเผาอ้อย ฤดูการผลิตปี 2566/67 นับตั้งแต่วันเปิดหีบ (10 ธ.ค. 2566) ถึงวันที่ 19 ก.พ. 2567 เป็นระยะเวลา 72 วัน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 68.41 ล้านตัน
โดยแบ่งเป็นปริมาณอ้อยสด 48.86 ล้านตัน ปริมาณอ้อยถูกลักลอบเผา 19.55 ล้านตัน และมีจุดความร้อน (Hotspot) สะสมในพื้นที่ปลูกอ้อย 47 จังหวัด จำนวน 2,159 จุด หรือคิดเป็น 6.45% จากจุดความร้อน (Hotspot) สะสมที่พบในประเทศ 33,448 จุด จะเห็นได้ว่ามีจุดความร้อน (Hotspot) สะสมนอกพื้นที่ปลูกอ้อยสูงถึง 31,289 จุด หรือคิดเป็น 93.55% จากจุดความร้อน (Hotspot) สะสมที่พบในประเทศ
อ่านข่าวอื่นๆ:
ส.ธนาคารไทยแนะ ปชช. ตั้งค่าจำกัดวงเงินจ่ายออนไลน์
หนุนเก็บค่า "เหยียบแผ่นดิน" หอการค้า คาดเม็ดเงินสะพัด 8 พันล้าน
เลขาฯสภาพัฒน์ โยน กนง.ถกแบงก์ชาติ “ลด-ไม่ลด” ดอกเบี้ย