วันนี้ (19 ก.พ. 2567) นายพูนทวี ชัยวิจิตมลากูล ผู้ช่วยผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึง ทิศทางการส่งออกไทย ปี 2567 ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ปรับเพิ่มการคาดการณ์ GDPโลกในปีนี้ อีกร้อยละ 0.2จากเดือนต.ค.2566 คาดว่าจะโตร้อยละ2.9 เป็น ร้อยละ3.1เท่ากับปี2566
นายพูนทวี ชัยวิจิตมลากูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
โดยประเทที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีผลต่อการส่งออกไทย เช่น อาเซียน ขยายตัวร้อยละ 4.3 ยุโรป ขยายตัวร้อยละ 0.9 เกาหลีใต้ ขยายตัวร้อยละ 2.3 และ สหราชอาณาจักร ขยายตัวร้อยละ 0.6 ส่วนประเทศที่เศรษฐกิจที่โตแบบชะลอ เช่น สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 2.1 , จีน ร้อยละ4.6 ,ญี่ปุ่นร้อยละ 0.9 เป็นต้น ส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศของโลกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.3
ปัจจัยสนับสนุนมากจาก เงินเฟ้อของโลกลดลง อัตราดอกเบี้ยหลายประเทศมิทิศทางลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งนโยบายการคลังของประเทศต่าง ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการขยายตัวเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนเริ่มมีการฟื้นตัว
นายพูนทวี กล่าวอีกว่า หลายประเทศคาดว่า จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง โดยสหรัฐฯมีโอกาสปรับดอกเบี้ยในช่วงเดือนพ.ค.ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกโตขึ้นในครึ่งปีหลังและส่งผลต่อการขยายตัวของส่งออกไทยครึ่งปีหลัง
นอกจาก สหรัฐฯที่มีแนวโน้มปรับดอกเบี้ยลงทั้งปีร้อยละ1-1.25 ขณะที่ยุโรปคาดจะปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือนเม.ย. ร้อยละ1.5 ,สหราชอาณาจักร ช่วงเดือนมิ.ย.ดอกเบี้ยจะลดลงอย่างน้อยร้อยละ 1 ส่วน จีน น่าจะปรับลดดอกเบี้ยลงปีนี้เนื่องจากวิกฤติในตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในขณะที่อินเดีย และอาเซียน รอดูทิศทางของธนากลางสหรัฐ(เฟด) ที่เริ่มดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงและข้อจำกัดที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกที่ต้องจับตา คือ เหตุการณ์โจมตีเรือขนส่งสินค้าของกบฏฮูตี ในบริเวณทะเลแดง ยังคงยืดเยื้อส่งผลต่อค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น การขนส่งล่าช้า ตู้ขนส่งสินค้าขาดแพลน การจองเรือยากขึ้น พื้นที่ขนส่งแออัด รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงมีข้อจำกัดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง และค่าเงินบาทของไทยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มแข็งค่าส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของไทย
สำหรับการส่งออกของไทยในปี 2567 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 2.5 หรือมีมูลค่าประมาณ 291,676 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทประมาณ 9.9 ล้านล้านบาท คาดการณ์การขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 2-3 หรือมีมูลค่าระหว่าง 290,253 - 293,099 ล้านเหรียญสหรัฐ
ภายใต้เงื่อนไขเศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 2.3 - 3.1 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 76-82 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 34-35 บาทต่อเรียนสหรัฐ อัตราเงินเฟ้อไทยร้อยละ 0.5-1.5 และการค้าโลกขยายตัวร้อยละ 3.3
อ่านข่าวอื่นๆ:
สภาพัฒน์ เผย ศก.ไทยปี 66 GDP โต 1.9% แนะแบงก์ชาติทบทวนนโยบายการเงิน
ม.หอการค้าชี้ คนแห่เข้าวัดทำบุญ "มาฆบูชา" เงินสะพัด 2.4 พันล้าน
กทม.เปิดตลาดนัดแก้หนี้ คนลงทะเบียน 9,342 แก้ยอดหนี้กว่า 90 ล้าน