วันนี้ (18 ก.พ.2567) เจ้าหน้าที่กรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกระทรวงเกษตรฯ เข้าตรวจสอบพิกัดแนวเขตแปลงที่ดินที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่พิพาทระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับเขต ส.ป.ก. เพื่อหาข้อสรุปแนวทางแก้ไขปัญหา ท่ามกลางความสนใจจากชาวบ้านในพื้นที่ที่ยังรอจัดสรรสิทธิ์ทำกินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา
ชาวบ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เดินทางมาติดตามการเข้าตรวจสอบพิกัดแนวเขตแปลงที่ดิน ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่พิพาทระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา กับเขตปฏิรูปที่ดิน
โดยวันนี้เป็นการตรวจสอบร่วมกันของ 3 หน่วยงาน คือ กรมแผนที่ทหาร กระทรวงกลาโหม ในฐานะคณะทำงานวันแมป และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับ ส.ป.ก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ติดกล้องดัก "เสือโคร่ง" ห่วงย้อนกินเหยื่อ-รอยตีนมุ่งป่าคลองลาน
นายเจริญ โพธิสาวัง อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านเหวปลากั้ง เปิดเผยว่า ปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินทำกินของชาวบ้านกับเขตป่ามีนานกว่า 50 ปีแล้ว และเพิ่งทราบข้อมูลจากการลงพื้นที่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า บริเวณที่ดินพิพาท สามารถออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ได้
แต่ที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือน ที่เรียกร้องขอจัดสรรยังไม่รับสิทธิ์ จึงอยากให้ ส.ป.ก.เดินหน้าจัดสรรสิทธิ์ต่อไป
สำหรับการตรวจสอบพิกัดแปลงเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 ครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้ารื้อถอนหมุดแนวเขตสำนักงานปฎิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 27 หมุด ในเขตพื้นที่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง พร้อมรื้อป้ายประกาศการแสดงสิทธิ์ในที่ดิน ที่ถูกนำมาติดไว้บริเวณที่ดิน 3 ไร่ ที่มีการแผ้วถาง
หลังตรวจสอบพบว่า ที่ดินที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.พื้นที่ 15 ไร่ อยู่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ครอบครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา พร้อมยื่นเรื่องถึง ปปช.เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ หลังพบเพิ่มเติมว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ไปแล้วกว่า 900 ไร่
เบื้องต้นพบว่า ทั้งสองหน่วยงาน คือ อุทยานฯ ถือแผนที่ และกฎหมายคนละฉบับ จึงต้องมีการตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหา หาข้อยุติทั้งในระยะสั้น และระยะยาวที่ต้องรอประกาศใช้วันแมปเป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งอาจใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปี ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ในระยะสั้นเพื่อหาข้อยุติกรณีพิพาท เจ้าหน้ากรมแผนที่ทหารจะเร่งตรวจสอบพิกัดแปลงที่ดิน ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งลงโทษเรือนำเที่ยวผูกโยงเรือกับปะการัง