อุทยานฯ ลั่นไม่เสียป่าเขาใหญ่ รังวัดจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.18 ก.พ.

ความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทกรณีพิพาท “จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.” ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังพบมีการบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อทำการเกษตร บริเวณใกล้เคียงแนวกันไฟในหมู่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

วันนี้ (16 ก.พ.2567) นายชัยวัฒน์ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยอมรับว่าไม่พอใจอย่างมาก จนต้องพูดออกมากลางประชุมระหว่างกรมอุทยานฯ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจัง หวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.โคราช) ที่มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน 

ถ้าเป็นป่า จะเอาใครไปอยู่ในป่าไม่ได้ ต้องมีสำนึก ผมอยากมีเรื่อง

นายชัยวัฒน์ ระบุว่า หลังจากพบว่ามีหลักหมุดโฉนด ส.ป.ก.ไปวางในเขตป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งกรมอุทยานฯ ดำเนินคดีไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา 73 ไร่ และเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบถามกลับไปยังส.ป.ก. นครราชสีมา ที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

นอกจากนี้ยังพบ ส.ป.ก.วางผังแปลงเพิ่มอีก 2,933 ไร่ รวม 65 แปลง โดยได้มีการถอนหลักหมุดออกไปบางส่วน และกรมอุทยานฯ จะไม่ยอมเสียป่าเขาใหญ่อีก ที่ผ่านมาเคยเสียป่าทับลานไปแล้ว 200,000 ไร่

หลักที่ยึดมาแจ้งความ ทำโดย ส.ป.ก.โคราช และถ้านำปักหลักเอง ที่นำมาปักหลักแสดงว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็น เชื่อว่าถ้าพบว่าทุจริต และไม่รู้ เจ้าหน้าที่ต้องปฏิเสธ

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยาน

สำหรับปฏิบัติการรื้อถอนหมุด ส.ป.ก. เกิดขึ้น หลังมีการตรวจสอบพบว่าที่ดินแปลงแรก 15 ไร่ที่มีการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. อยู่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ครอบครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา พร้อมยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ

กรมแผนที่ทหารรังวัดที่ดินพิพาท 18 ก.พ.นี้ 

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ กรมอุทยานฯ ประสานกรมแผนที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามมติของโครง การ One Map ในการแก้ไขที่ดินทับซ้อนระหว่างรัฐ กับรัฐที่ยังไม่ได้ข้อยุติ

ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบพบว่า มีการบุกรุกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อย่างชัดเจน และไม่พบการทำประโยชน์ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบออกการโฉนดที่ดิน ส.ป.ก.ว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ ส่วนประเด็นการรังวัดแนวเขตที่ดิน 2,933 ไร่ต้องชะลอไปก่อน

ยืนยันว่าจะไม่ให้เสียพื้นที่อุทยานเขาใหญ่ แม้แต่ไร่เดียว ต้องเอากรมแผนที่ทหารมาพิสูจน์ ร่วมกับแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศแนบท้ายกฤษฎีกาเขาใหญ่ ถ้าไม่ถูกต้องครอบครองโดยไม่ชอบก็ต้องไป

โดยเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ เข้ารื้อถอนหมุดแนวเขตสำนักงานปฎิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 27 หมุด ในเขตพื้นที่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง พร้อมรื้อป้ายประกาศการแสดงสิทธิ์ในที่ดิน ที่ถูกนำมาติดไว้บริเวณที่ดิน 3 ไร่ที่มีการแผ้วถาง

ผังแปลงที่ดินอีก 2,933 ไร่ที่เตรียมออกโฉนด ส.ป.ก.ในเขาใหญ่

ทั้งนี้ พบว่าที่ดินที่มีการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 จำนวน 15 ไร่ เป็นหนึ่งในพื้นที่มีการตีรูปแปลงออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 และมีชื่อผู้ครอบทุกแปลง จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีขบวนการพยายามนำที่อุทยานไปออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.เนื่องจากพบพิรุธในขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่ความเร่งรีบ

สำหรับการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.ในที่ดินแปลง 15 ไร่ ที่มีปัญหาพบว่ามีการดำเนินการตั้งแต่กลางปี 2566 และปลายเดือนต.ค.เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตรวจพบหลักหมุด ส.ป.ก. และแจ้งให้รื้อถอน

แต่ในเดือนพ.ย.2566 สปก.นครราชสีมาออกเอกสารสิทธิ์สปก.4-01 ให้กับผู้ครอบครอง โดยไม่มีการตรวจสอบแนวเขตร่วมกัน และนำไปสู่การจับกุมผู้ครอบครอง หลังนำผู้นำชุมชนแจ้งต่ออุทยานว่ามีการขอเปลี่ยนสปก.เป็นโฉนดแต่ผู้ครอบครองไม่ใช่คนในชุมชน

อ่านข่าว พิรุธ! ออกโฉนด ส.ป.ก.ในป่าเขาใหญ่ จ่อขึ้นรูปแปลง 2,900 ไร่

ไทม์ไลน์การออกโฉนด ส.ป.ก.ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เครือข่ายเขาใหญ่ ห่วงกระทบมรดกโลก

กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก และเครือข่ายเด็กเยาวชน ออกแถลงการณ์ร่วม กรณีพิพาท “จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.” ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังพบมีการบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อทำการเกษตร บริเวณใกล้เคียงแนวกันไฟในหมู่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบุกรุกพื้นที่บริเวณโดยรอบเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอาจส่งผลกระทบให้กับการเป็นมรดกโลกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่นับวันจะมีปัญหาในหลายเรื่องทั้งการปลูกสร้างอาคาร ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการสร้างเขื่อน 

ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง หากเกิดการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มที่เข้าไปบุกรุก รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องดำเนินการลงโทษอย่างเฉียบขาด รวดเร็วและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

อ่านข่าว จับชาย 5 คนลอบถาง ปักหมุดเขตป่าเขาใหญ่ อ้างที่ดินส.ป.ก.

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดข้อพิพาทขึ้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง และมีข้อสรุปให้ตั้งคณะกรรมแก้ไขปัญหาระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป 

อ่านข่าวอื่นๆ

  ครม.แก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน ไฟเขียวปรับแผนที่แนวเขตเป็น One Map