วันนี้ (16 ก.พ.2567) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เวลา 15.00 น. ตรวจวัดได้ 26.8-64.3 มคก.ต่อ ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงเกินมาตรฐานอยู่ใน "ระดับสีส้ม" เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 45 พื้นที่ ดังนี้
เขตสัมพันธวงศ์ เขตพญาไท เขตวังทองหลาง เขตปทุมวัน เขตบางรัก เขตยานนาวา เขตจตุจักร เขตบางกะปิ เขตลาดกระบัง เขตคลองสาน
เขตบางกอกน้อย เขตบางพลัด เขตบางขุนเทียน เขตพระนคร เขตสาทร เขตคลองเตย เขตบางซื่อ เขตหลักสี่ เขตบึงกุ่ม เขตลาดพร้าว
เขตคลองสามวา เขตสายไหม เขตห้วยขวาง เขตสะพานสูง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดอนเมือง เขตดินแดง เขตราษฎร์บูรณะ เขตบางกอกใหญ่ เขตตลิ่งชัน
เขตทวีวัฒนา เขตดุสิต เขตบางบอน เขตวัฒนา เขตบางนา เขตคันนายาว เขตมีนบุรี เขตหนองจอก สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง
สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา
โดยมี 5 พื้นที่ค่าฝุ่นมากสุด ดังนี้
- เขตบางกะปิ 64.3 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางรัก 49.4 มคก./ลบ.ม.
- เขตคลองสามวา 48.8 มคก./ลบ.ม.
- เขตหนองจอก 48.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตบึงกุ่ม 46.6 มคก./ลบ.ม.
"ผู้ว่าฯ กทม." ยันสุดสัปดาห์นี้ฝุ่น PM2.5 ดีขึ้น
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ตรวจเยี่ยมศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร พร้อมอัปเดตสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า สถานการณ์ฝุ่น กทม.ในช่วงเช้าวันนี้ดีขึ้น และเช้าวันนี้ไม่มีค่าฝุ่นเป็นสีแดง โดยพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับสีส้มและมีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าฝุ่นที่รายงานในแต่ละช่วงเวลาโดยศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศฯ นั้น เป็นค่าเฉลี่ย 24 ชม. เพื่อไม่ให้ตัวเลขมีค่าขึ้น-ลง มากเกินไป แต่หากดูค่าฝุ่นเป็นรายชั่วโมง จะพบว่าลดลงมากจากเมื่อวาน และภาพรวมตั้งแต่พรุ่งนี้จนถึงสัปดาห์หน้ามีแนวโน้มดีขึ้น
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องปัญหาฝุ่น PM2.5 นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดการดำเนินการ พร้อมกำชับว่าอย่าเพียงแค่พึ่งสภาพอากาศหรือลมที่จะช่วยให้ค่าฝุ่นลดลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เราต้องดูแหล่งกำเนิดฝุ่นด้วยเพราะปัญหาฝุ่นมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ สภาพอากาศปิดและลมไม่ถ่ายเท ฝุ่นจากยานพาหนะ และฝุ่นจากการเผาไหม้
ในกรุงเทพฯ สิ่งที่ช่วยกันได้ดีที่สุดคือการลดการใช้รถยนต์ จึงเป็นเหตุผลที่ กทม.ประกาศขอความร่วมมือ Work from Home ในช่วงค่าฝุ่นเป็นสีแดงหลายพื้นที่เมื่อ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมถึงแคมเปญ “รถคันนี้#ลดฝุ่น” ที่ กทม.ทำร่วมกับเอกชนเชิญชวนให้ประชาชนเปลี่ยนไส้กรองและน้ำมันเครื่อง ช่วยลดฝุ่นจากภาคการจราจรอีกทาง
สำหรับความคืบหน้าโครงการ รถคันนี้#ลดฝุ่น ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2566 - 12 ก.พ.2567 มีจำนวนรถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองแล้ว จำนวน 202,564 คัน ช่วยลด PM2.5 จากภาคการจราจรได้แล้ว 10%
ทั้งนี้ กรุงเทพฯ และภาคีเครือข่ายได้ตั้งเป้าหมายเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองรถยนต์ไว้ที่ 300,000 คัน ภายในเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งหากทำได้จะสามารถลด PM 2.5 จากการจราจรได้ถึง 15%
คลินิกมลพิษทางอากาศ 8 แห่ง
กรุงเทพมหานคร มีบริการคลินิกมลพิษทางอากาศ รวมทั้งสิ้น 8 แห่ง ได้แก่
- โรงพยาบาลกลาง
- โรงพยาบาลตากสิน
- โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
- โรงพยาบาลสิรินธร
- โรงพยาบาลราชพิพัฒน์
- โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธฺโร อุทิศ
- โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์
- โรงพยาบาลนคราภิบาล
โดยเปิดบริการคลินิกมลพิษทางอากาศ ให้สอดคล้องกับการคาดการณ์และสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5
พร้อมให้ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ออกหน่วยบริการเชิงรุกในพื้นที่
ทั้งนี้จากสถิติประชาชนที่มารับบริการที่โรงพยาบาล และศูนย์บริการสาธารณสุข พบว่าส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ
จากสถานการณ์ผู้ป่วยที่เข้ารับบริการที่คลินิกมลพิษทางอากาศ ระหว่างวันที่ 1 - 14 ก.พ.2567 พบว่า พื้นที่ที่มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบสูงสุดที่เขตบางคอแหลม รองลงมา ได้แก่ หนองแขม บางแค หนองจอก ยานนาวา และบางขุนเทียน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับคลินิกมลพิษทางอากาศที่เปิดให้บริการนี้ จะทำการคัดกรองอาการ ให้คำแนะนำและการรักษา รวมถึงการซักประวัติเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและให้ข้อแนะนำในการปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสม
อ่านข่าวอื่น ๆ
ตัวที่ 2 ของไทย พบซาก “ออร์ฟิช” ยาว 2.85 เมตร โผล่ภูเก็ต