วันนี้ (16 ก.พ.2567) นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในช่วงเดือน ม.ค.ถึงเดือน มี.ค.ปีนี้ เป็นช่วงที่มะยงชิดและมะปรางหวานของ จ.นครนายก ให้ผลผลิตออกสู่ตลาด คาดการณ์ว่าผลผลิตมะยงชิดในปีนี้ จำนวน 640 ตัน
ส่วนมะปรางหวานคาดการณ์ปริมาณผลผลิต 98 ตัน ลงลดจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 75 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากฝนตก ในช่วงที่มะยงชิดและมะปรางหวานติดดอก และสาเหตุจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อน ทำให้ราคาจำหน่ายในปีนี้ขยับสูงขึ้นจากปีแล้ว
โดยมะยงชิดราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-350 บาท (ปี 2566 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 100-250 บาท) และมะปรางหวานราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 150-200 บาท (ปี 2566 ราคาเฉลี่ย 80-150 บาท)
ชวนผู้บริโภคช่วยกันอุดหนุนผลผลิตจากเกษตรกรที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ หรือสามารถสั่งผ่านเว็บไซต์ www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com ที่มีเกษตรกรเป็นสมาชิกนำสินค้ามาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคแบบไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางเพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรม
นายพีรพันธ์ กล่าวว่า กรมฯ มีแนวทางในการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นในการพัฒนาการผลิตและเพิ่มมูลค่าผลผลิต จนถึงแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จนได้รับการการันตรีให้เป็นสินค้า GI ซึ่งทำให้ชาวสวนมีรายได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร Smart Farmer หรือ Young Smart Farmer นำผลผลิตมะยงชิด มะปรางหวาน มาแปรรูป และใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรอื่น ๆ เช่น น้ำมะยงชิด มะยงชิดลอยแก้ว แยมมะยงชิด มะยงชิดอบแห้ง ซอสมะยงชิด กล้วยอบมะยงชิด หมี่กรอบมะยงชิด เป็นต้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกร
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า จ.นครนายก มีลักษณะทางภูมิศาสตร์และสภาพภูมิอากาศเหมาะกับการทำเกษตร จึงส่งผลทำให้ผลผลิตมะยงชิดและมะปรางหวานของ จ.นครนายก มีคุณภาพดี และมีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างจากที่อื่น และได้รับ GI มะยงชิด และมะปรางหวาน
ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ขอใช้ตราสัญลักษณ์ GI ของ จ.นครนายก รวม 478 ราย แยกเป็นมะยงชิด 349 ราย และมะปรางหวาน 129 ราย ด้านพื้นที่ปลูกมะยงชิดและมะปรางหวาน ประมาณ 9,762 ไร่ ในเขต 3 อำเภอ ได้แก่ อ. เมืองนครนายก อ. บ้านนา และ อ.ปากพลี มีเกษตรกร 2,593 ราย และกลุ่มแปลงใหญ่มะยงชิด จำนวน 7 แปลง พื้นที่ 1,359 ไร่ สมาชิก 294 ราย โดยจะให้ผลผลิตช่วงเดือนมกราคมถึงมี.ค.ของทุกปี
ข้อสังเกตของมะยงชิดกับมะปรางหวานของ จ.นครนายก อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร บอกว่า มะยงชิดจะมีลักษณะผลใหญ่ รูปทรงไข่ ผลสุกสีเหลืองส้ม เนื้อหนา เนื้อแน่น เมล็ดลีบ รสชาติหวานอมเปรี้ยว หอม กรอบ ค่าความหวาน 18-22 องศาบริกซ์ พันธุ์ที่นิยมปลูกในพื้นที่เป็นพันธุ์ทูลเกล้า พันธุ์บางขุนนนท์ พันธุ์ท่าด่าน พันธุ์ชิดสาริกา พันธุ์ทูลถวาย และพันธุ์ชิดสง่า
ส่วนมะปรางหวานจะมีลักษณะผลใหญ่ รูปทรงยาวรี ปลายเรียวแหลม รสชาติหวาน หอม กรอบ ไม่ระคายคอ ความหวานอยู่ในช่วง 16-19 องศาบริกซ์ พันธุ์ที่นิยมปลูกในพื้นที่เป็นพันธุ์ทองใหญ่ พันธุ์ทองนพรัตน์ พันธุ์ท่าอิฐ และพันธุ์แม่อนงค์
อ่านข่าวอื่นๆ:
วอนชาวนางดทำนาปรังรอบ 2 เกษตรฯแนะปลูกพืชทนแล้งทดแทน