นายยาสึอากิ คาวาชิตะ บิดาของ น.ส.โทโมโกะ คาวะชิตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่ถูกฆาตกรรมในช่วงเทศกาลลอยกระทง ปี 2550 ใน จ.สุโขทัย เดินทางกลับไปจุดที่พบศพลูกสาว บริเวณวัดสะพานหินอีกครั้ง ซึ่งเป็นการกลับมาในรอบ 5 ปี หลังมีปัญหาสุขภาพและสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19
ทันทีที่เดินทางถึงวัดสะพานหิน นายยาสึอากิ วางดอกไม้สีขาวลงบนแผ่นหินที่เป็นสัญลักษณ์ จุดที่พบศพของลูกสาว ในระหว่างที่วางดอกไม้นายยาสึอากิและภรรยา ร้องไห้พร้อมพูดถึงเรื่องราวของลูกสาวในขณะมีชีวิตพร้อมทั้งขอให้ตำรวจในพื้นที่ช่วยวางดอกไม้ระลึกถึงในทุกวันครบวันเสียชีวิต
จากนั้นจึงเดินเข้าไปในบริเวณวัดสะพานหิน เพื่อดูสถานที่โดยรอบ ก่อนเดินทางไปจุดอื่นๆ ในอุทยานแห่งชาติประวัติศาสตร์ ตามรอยเส้นทางที่ลูกสาวเคยไปรวมถึงไปเกสต์เฮาส์ที่ลูกสาวเคยพักและฝากสิ่งของไว้

เมื่อไปถึงก็พบว่าเกสต์เฮาส์ปิดกิจการไปแล้ว แต่เจ้าของได้เปิดให้ครอบครัวของโทโมโกะ เข้าไปรำลึกถึงลูกสาวอีกครั้ง ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ครอบครัวจะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย
ก่อนหน้านี้นายยาสึอากิ คาวาชิตะ ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวไทยพีบีเอส เวิลด์ ว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อติดตามหน่วยงานที่รับผิดชอบคดี โดยเฉพาะผลการยื่นคำร้องขอให้คดีของลูกสาวไม่มีอายุความ เนื่องจากตามกฎหมายไทยกำหนดให้คดีมีอายุความ 20 ปี ซึ่งหมายความว่า คดีจะหมดอายุความลงในปี 2570 เพราะในญี่ปุ่น เพิ่งมีการเปลี่ยนกฎหมายในลักษณะคล้ายกันไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นายยาสึอากิ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องเดินทางกลับติดตามคดีตลอด 17 ปี เพราะคิดว่าลูกสาวผู้ที่เดินทางมาเมืองไทยด้วยความร่าเริง สนุกสนาน แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงที่นี่โดยที่ยังไม่สามารถจับผู้ก่อเหตุได้

“ที่เป็นห่วง คือเรื่องการคลี่คลายคดี ตอนนี้ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้ สถานการณ์โควิด ทำให้ผมไม่ได้เดินทางมาตามคดีเองถึง 5 ปี พอผ่านไป ไทยไม่ทำอะไรเลย ไม่มีความคืบหน้า สิ่งที่สำคัญคืออยากให้ยกเลิก กฎหมาย ที่กำหนดอายุความ ปี 2019 เคยเสนอมาแล้ว เลยกลับมาติดตามว่าไปถึงไหน”
นายยาสึอากิ ยังระบุว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันที่พัฒนาไปไกล อาจสามารถคลี่คลายคดีได้ ดังนั้นขอให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาพยานหลักฐานจนนำไปสู่การจับตัวผู้กระทำความผิด และสิ่งที่อยากทำที่สุด ในตอนนี้ คือการได้กลับไปคุยกับลูกสาวอีกครั้ง

พ.ต.อ.พงษ์อินทร์ อินทรขาว หัวหน้าคณะทำงานติดตามคดีนางสาวโทโมโกะ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในขณะนั้น ระบุว่า พยายามหาหลักฐานใหม่ เช่นการส่งไม้กวาดที่พบที่เกิดเหตุ ไปตรวจที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่ก็ไม่พบอะไร
ส่วนการตรวจดีเอ็นเอของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่มีพยาน คือคนขายตั๋วเข้าชมวัดสะพานหิน บอกว่าได้เข้ามาชมก่อนหน้านางสาวโทโมโกะ ไม่นาน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่พบบริเวณขอบกางเกงด้านหลังของนางสาวโทโมโกะ เบื้องต้นยังไม่มีการตรวจและยังรอการประสานความร่วมมือคดีทางอาญาระหว่างประเทศซี่งต้องใช้เวลา
ขณะที่การให้ปากคำของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวกับตำรวจโอซากะ เบื้องต้น คือการแจ้งรายละเอียดการเดินทางไปแต่ละจุดและให้ปากคำว่า ไม่พบนางสาวโทโมโกะ ส่วนดีเอ็นเอที่พบบริเวณขอบกางเกงด้านหลังของนางสาวโทโมโกะ ยังไม่สามารถพิสูจน์ว่า เป็นดีเอ็นเอของใครและจะเป็นของผู้ก่อเหตุหรือไม่
อ่านข่าวเพิ่ม :
"บิ๊กป๊อด" ลั่นไม่ทิ้งเก้าอี้ ทส. อยู่ครบเทอม-ปัดป่วย
“แพทองธาร” ระบุเป็นข่าวดี “ทักษิณ” ได้พักโทษ
ผบ.ตร.สั่งตั้งจุดตรวจ-คุมจุดล่อแหลม ป้องกันภัยช่วงวาเลนไทน์