วันนี้ (11 ก.พ.2567) นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯได้เข้าร่วมการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA Upgrade Negotiations) ครั้งที่ 5 ในฐานะประธานฝ่ายอาเซียน ระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-2 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน
การประชุมร่วมยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA Upgrade Negotiations) ครั้งที่ 5 เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน
การประชุมร่วมยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA Upgrade Negotiations) ครั้งที่ 5 เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยมีนายหวี เปิ่นหลิน อธิบดีกรมเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเร่งผลักดันให้การเจรจามีความคืบหน้ามากที่สุด เพื่อให้สามารถสรุปผลได้ภายในปี 2567 ตามที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีนประกาศไว้
นายรัชวิชญ์ กล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้ มีความคืบหน้าอย่างมาก อาเซียนและจีนสามารถได้ข้อสรุปบทเพิ่มเติม ได้แก่ วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมและรายย่อย และการแข่งขันทางการค้า รวมทั้งสามารถเจรจาบทการคุ้มครองผู้บริโภค และบทมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิคและกระบวนการตรวจสอบและรับรอง ได้เกินครึ่งทางแล้ว
คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดในการประชุมครั้งต่อไป สำหรับบทอื่นๆ ได้ เช่น การค้าสินค้า เศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุน พิธีการทางศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า และ เศรษฐกิจสีเขียว มีความคืบหน้ามากขึ้น สำหรับเรื่องการค้าสินค้า อยู่ระหว่างกำหนดแนวทางการเปิดตลาดสินค้าเพื่อนำมาลดภาษีระหว่างกันเพิ่มเติม
นายรัชวิชญ์ กล่าวอีกว่า การเจรจารอบนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของปีนี้ ซึ่งอาเซียนและจีนจะต้องกำหนดแนวทางและเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมในการเจรจาแต่ละรอบ เพื่อให้สามารถสรุปผลได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งที่ประชุมเน้นย้ำรสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน และความร่วมมือในมิติใหม่ๆ ระหว่างกัน
สำหรับไทยในฐานะประธานร่วมฝ่ายอาเซียน จะร่วมผลักดันให้สามารถสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปีนี้ โดยได้กำชับให้ทุกคณะทำงานกำหนดเป้าหมายการเจรจาในแต่ละครั้ง และจัดประชุมระหว่างรอบผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อให้การเจรจาคืบหน้ามากที่สุด ก่อนการเจรจาครั้งต่อไปในเดือนเม.ย.2567ที่สิงคโปร์
ทั้งนี้ การปรับปรุงความตกลงให้มีความทันสมัย จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้ผู้ประกอบการ และเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียน โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่า 104,964.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปจีน มูลค่า 34,161.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากจีน มูลค่า 70,800.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเหล็กกล้า
อ่านข่าวอื่นๆ:
ปักหมุด ตลาดเอเชียกลาง อคส. เปิดหน้าต่างการค้าไม่ผ่านหน้าเสื่อ
ข้าวไทย บนฝ่ามือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” วิกฤต-ความหวัง ชาวนาไทยแนะผู้ประกอบการ "กางเกงช้างไทย" สร้างลิขสิทธิ์ ควบคู่ทำแบรนด์ให้เข้มแข็ง