ความคืบหน้ากรณีหนุ่มสุโขทัย โยกรถสามล้อเดินทาง 400 กม.จากจ.สุโขทัย มุ่งหน้ามากรมบัญชีกลาง กทม.เพื่อทวงถามหลังถูกตัดสิทธิเบี้ยคนพิการ ซึ่งหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ
วันนี้ (5 ก.พ.2567) เมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงปลัดอำเภอบางปะหัน และพล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้ามาเจรจาไก่เกลี่ยกับ นายมณฑล เพ็ชรสังข์ ชายพิการที่โยกรถสามล้อมาจาก จ.สุโขทัย ขณะนี้พักชั่วคราวอยู่ภายในวัดเทพอุปการาม หรือวัดตานิม อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม เพื่อที่จะพานายมณฑล ไปดำเนินการเรื่องเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ที่ อ.บางปะหัน เพื่อที่จะไปดำเนินการยื่นขอสิทธิ์รับเบี้ยคนพิการ ซึ่งเจ้าตัวยินดีที่จะไปทำบัตร แต่จะต้องหลังจากที่ไปพบกับผู้บริหารกรมบัญชีกลาง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ก่อน
ระหว่างเจรจา เจ้าหน้าที่ได้ยื่นโทรศัพท์ให้นายมณฑล ดูเอกสารข้อมูลทะเบียนราษฎร เพื่อยืนยันว่าได้ดำเนินการช่วยเหลือแล้ว จากนั้นเขาได้ชูโทรศัพท์ขึ้นให้นักข่าวดู และบอกว่า ได้แล้วเอกสาร
อ่านข่าว เหตุโดนคดี "หนุ่มสุโขทัย" สิทธิหลุดเบี้ยคนพิการ 2 ปี
ยันไม่รับเงินบริจาค-อยากเป็นกระบอกเสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเมื่อได้รับเอกสารแล้วทำไม ยังยืนยันที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพอยู่ นายมณฑล บอกว่าเดี๋ยวจะไปแฉ และบอกที่กระทรวงพม.ให้ปลดป้ายลง เพราะชื่อที่ติดอยู่สวยหรู แต่กลับไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย ต้องการเป็นตัวแทนในการไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ เพื่อทวงสิทธิ์ให้กับกลุ่มผู้เปราะบาง
ยืนยันว่าไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ไม่ได้ต้องการรับเงินบริจาคหรืออะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องการอยากเรียกร้องตามสิทธิที่หายไป และช่วยเหลือผู้พิการรายอื่นๆ ที่มีปัญหาเหมือนกับ
นายมณฑล ยืนยันว่า ที่พูดให้สัมภาษณ์กับสื่อมีสติสัมปชัญญะดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้สื่อมวลชน ออกจากพื้นที่เพื่อไม่เป็นการกดดันชาย
นายธราพงษ์ สุรวงศ์ ปลัดอาวุโสอำเภอบางปะหัน บอกว่า เบื้องต้นทราบว่าชายรายนี้ ชื่อถูกย้ายมาอยู่ที่ทะเบียนกลาง เนื่องจากว่าถูกออกหมายจับเมื่อปี 2563 แต่หลังจากคดีสิ้นสุด ไม่ได้ไปติดต่อกับทางราชการดำเนินการด้านเอกสาร จึงทำให้ถูกตัดสิทธิ เมี่อเดินทางไปเพื่อไปขอทำบัตรประชาชนที่ อ.ศรีสัชนาลัย จึงรู้ว่าถูกตัดสิทธิ จึงทำการทวงสิทธิขอรับเบี้ยผู้พิการ
กรณีนี้จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนของเจ้าหน้าที่ด้วยหรือไม่ เพราะตามหลักการต้องนำเอกสารไปยืนยันสิทธิกับเจ้าหน้าที่อำเภอ
ทั้งนี้เมื่อสอบถามว่าช่วงระยะเวลาที่ถูกตัดสิทธิจะมีผลย้อนหลังในการรับเบี้ยคนพิการหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่มีผลย้อนหลัง
โดยทีมแพทย์ ตรวจสุขภาพชายผู้พิการเบื้องต้น เพื่อประเมินร่างกาย และวัดความดัน
อ่านข่าว "หนุ่มสุโขทัย" โยกสามล้อคู่ใจ 400 กม.ยืนยันสิทธิเบี้ยคนพิการ