วันนี้ (1 ก.พ.2567) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยุบพรรคก้าวไกล โดยอ้างอิงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุชัดเจนว่า การแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงถือว่าเข้าเงื่อนไขตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เรื่องการกระทำล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ยุบพรรคก้าวไกล
อ่านข่าว : ศาลรัฐธรรมนูญชี้ "ก้าวไกล" หาเสียงแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
นายเรืองไกร ยังกล่าวว่า ผลของคดีเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.67) จะผูกพันมาถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กกต.ซึ่งต้องทำตามหน้าที่และอำนาจ เพราะเป็นความปรากฎ อยู่เฉยไม่ได้ ต่อมา คือ ป.ป.ช.ตนเองและ รัฐสภา หากกรณีเช่นนี้อีกหรือการอภิปราย ประธานรัฐสภาจะต้องห้ามให้ดำเนินการเช่นนี้อีก
ทั้งหมดเป็นไปตามพยานหลักฐาน และหลักฐานของสภาฯ ซึ่งมีครบถ้วนอยู่แล้ว ขาดเพียงคำร้องของผู้ร้อง ซึ่งคำวินิจฉัยเมื่อวานจะตัดสินเกินคำร้องไม่ได้
วันนี้มายื่นคำร้องโดยใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 วงเล็บ 1 และ วงเล็บ 2 โดย วงเล็บ (1) คือ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ยุบพรรคก้าวไกล
อ่านข่าว : "ก้าวไกล" ชี้คำวินิจฉัยศาล รธน.กระทบการเมือง-สิทธิเสรีภาพ
วงเล็บ (2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น ซึ่ง ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีของพรรคไทยรักษาชาติ ที่เคยถูกยุบพรรคมาแล้ว
อ่านข่าว : อ่านฉบับเต็ม ศาลรัฐธรรมนูญชี้ "ก้าวไกล" หาเสียงแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
ตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ตามพยานหลักฐาน ไม่มีความรู้สึกชอบ หรือไม่ชอบ มาเกี่ยวข้อง
นายเรืองไกร ยังกล่าวว่า กรณีความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่น เช่น พรรคเพื่อไทย หรือ พรรคอื่น ก็ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ก็จะอยู่ในคิวต่อไป
นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ตาม ม.49 กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล หาเสียงแก้ไข ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
จากนั้นในเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ตาม ม.49 กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล หาเสียงแก้ไข ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองนั้น ได้เดินทางมายัง กกต.เพื่อยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ดำเนินการตาม พ.ร.ป.มาตรา 92 วงเล็บ 1 เพื่อให้ยุบพรรคก้าวไกล โดยยื่นหลักฐานประกอบเป็นคำร้อง เอกสารคำถอดเทปคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีดังกล่าวและเอกสารหลักฐานอื่น ๆ มาด้วย
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ปิดประตูแต่การแก้ไข ต้องเป็นไปตามครรลองนิติบัญญัติโดยชอบ และเป็นฉันทามติ ซึ่งศาลวินิจฉัยว่า การแก้ไข ม.112 นั้นมีเจตนาซ่อนเร้น อย่างอื่น อันมีนัยสำคัญ ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปอาจจะหยั่งไม่ทราบถึง
ข่าวอื่น ๆ
"เจ๋ง ดอกจิก" สาบานไม่เกี่ยวรีดทรัพย์ "อธิบดีกรมการข้าว"
ตร.รวบ "เอก ปากน้ำ" ร่วมกลุ่มรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว