วันนี้ (31 ม.ค.2567) รัฐบาลอิสราเอลเดินหน้าใช้ปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มฮามาสอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอิสราเอลส่งหน่วยคอมมานโดแฝงตัวเข้าไปสังหารสมาชิกของกลุ่มฮามาสที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่เวสต์ แบงค์ ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากขณะเกิดเหตุเกิดในโรงพยาบาล ซึ่งเต็มไปด้วยคนไข้และบุคลากรทางการแพทย์
กองทัพอิสราเอล ระบุว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสังหารสมาชิกของกลุ่มฮามาส ที่วางแผนเตรียมก่อเหตุโจมตีครั้งใหม่ ปฏิบัติการในครั้งนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล Sina ในเวสต์ แบงค์ บันทึกเอาไว้ได้
ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เผยให้เห็นภาพหน่วยคอมมานโดของอิสราเอลทั้งหญิงและชายที่แฝงตัวเข้าไปในโรงพยาบาล โดยแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และใช้อุปกรณ์หลายอย่างเป็นเครื่องบังหน้า เช่น กระเป๋าเวชภัณฑ์ รถเข็นผู้ป่วย เป็นต้น
อ่านข่าว : หญิงพลัสไซซ์ตั้งคำถาม "ผิดหรือ" ไม่สละที่นั่งให้เด็ก 1 ขวบ
เป้าหมายหลักของปฏิบัติการในครั้งนี้ คือ การสังหาร Muhammad Jalamnah สมาชิกของกลุ่มฮามาสที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และสังหารสมาชิกอีก 2 คน โดยหน่วยคอมมานโดใช้ปืนเก็บเสียงในปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดของวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
ในเวลาต่อมากองทัพอิสราเอลระบุว่า Jalamnah เป็นผู้ก่อการร้าย ที่จัดหาอาวุธและวัตถุระเบิดที่ใช้ในการโจมตีอิสราเอลซึ่งกำลังวางแผนเตรียมก่อเหตุครั้งใหม่ในอนาคตอันใกล้และใช้โรงพยาบาลเป็นที่หลบซ่อน
นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลยังเผยคลิปวิดีโอเสนาธิการกองทัพอิสราเอลที่ย้ำจุดยืนในการปราบปรามกลุ่มฮามาส รวมถึงกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ โดยกล่าวว่าจะไม่ปล่อยให้โรงพยาบาลเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มก่อการร้าย
อ่านข่าว : เปิดตัวเรือสำราญใหญ่สุดในโลก จุดกระแสวิตกปล่อย "มีเทน"
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล โดยยอมรับว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถกล่าวถึงข้อเท็จจริงของปฏิบัติการในครั้งนี้ได้ โดยกล่าวเพียงว่าสหรัฐฯ ต้องการให้อิสราเอลปฏิบัติการภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมสากล แต่ไม่ต้องการให้มีปฏิบัติการเกิดขึ้นในโรงพยาบาล แต่ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมสากล หากโรงพยาบาลถูกใช้เป็นสถานที่วางแผนเพื่อก่อการร้าย สิทธิคุ้มกันดังกล่าวจะหมดไป
ผู้นำอิสราเอลยืนยันไม่ถอนกำลังจากกาซา
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกันที่ยังคงถูกกลุ่มติดอาวุธควบคุมตัวในกาซา นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ประกาศว่า อิสราเอลจะไม่ถอนกำลังออกจากกาซา และจะไม่ปล่อยตัวชาวปาเลสไตนหลายพันคนที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งคาดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในเงื่อนไขการเจรจา เพื่อให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันที่เหลือ
พร้อมย้ำว่าอิสราเอลจะไม่ยุติสงครามในครั้งนี้ จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมด นั่นคือการกำจัดกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก ช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมดกลับมา และต้องทำให้มั่นใจว่ากาซาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีก
ข่าวอื่น ๆ
มหากาพย์กระเป๋าสุดหรูสะเทือนรัฐบาลเกาหลีใต้
ครบ 3 ปีรัฐประหาร เมียนมาปรับท่าทีส่งตัวแทนร่วมประชุมอาเซียน