หลังจากมีการเปิดหลักฐานคลิปเสียงสนทนาระหว่างนาย "จ."กับภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว หลังถูกรวบตัวในข้อหาเรียกทรัพย์จำนวน 1.5 ล้านบาท โดยในคลิปปรากฏชื่อ "สส.เท้ง" พรรคก้าวไกลในทำนองว่าจะเคลียร์ให้
วันนี้ (29 ม.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเพจ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ–Natthaphong Ruengpanyawut” ชี้แจงข้อเท็จจริง
และข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่ถูกพาดพิงในคดีป.ป.ป.เข้าจับกุมนักร้อง ฐานเรียกตบทรัพย์ อธิบดีกรมการข้าว
อ่านข่าว อธิบดีกรมการข้าว พบ ป.ป.ป. ให้ปากคำ-ส่งหลักฐาน
ข้อมูลจากโพสต์ของนายณัฐพงษ์ ระบุว่า 3 ประเด็นดังนี้
1) นายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กมธ.ติดตามงบฯ ในวันที่ 20 ธ.ค.2566 เรื่องการขอให้ตรวจสอบการใช้งบกรมฝนหลวงและการบินเกษตร
ไม่เกี่ยวข้องกับคดีเรียกตบทรัพย์ จากอธิบดีกรมการข้าว ที่ถูกล่อซื้อ บุกจับกุม ตามที่ปรากฏในข่าวแต่อย่างใด ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขาฯ ลงไปรับหนังสือร้องเรียนแทนในวันนั้น เนื่องจากติดภารกิจการจัดงานสัมมนาของคณะกรรมาธิการในวันดังกล่าว
2) คณะกรรมาธิการฯ ได้นำเรื่องร้องเรียนเข้าที่ประชุมครั้งที่ 11 วันที่ 21 ธ.ค.2566 โดยตัวเองเป็นประธาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมและที่ประชุมได้รับทราบถึงหนังสือร้องเรียนตามข้อ (1) แล้ว ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการปกติ
3) ปัจจุบัน เรื่องของกรมฝนหลวงตามหนังสือร้องเรียนในข้อ (1) ยังไม่ถูกบรรจุเป็นวาระพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบหามูลเหตุข้อเท็จจริง
แจงสาเหตุไม่บรรจุวาระในกมธ.
นอกจากนี้ยังระบุข้อมูลเพิ่มเติม ถึงสาเหตุที่ยังไม่บรรจุเรื่องตามข้อ (1) เข้าเป็นวาระการพิจารณาของคณะกรรมาธิการก็เพราะว่า ก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการในวันที่ 20 ธ.ค.66 นายยศวริศ (เจ๋ง ดอกจิก) โทรศัพท์มาหา (ไม่แน่ใจว่าได้เบอร์โทรศัพท์มาจากช่องทางใด) เพื่อแจ้ง และขอให้ลงไปรับหนังสือเรื่องร้องเรียนตามข้อ (1) ด้วยตนเอง ซึ่งได้ตอบปฏิเสธไป เนื่องจากติดภารกิจการจัดงานสัมมนาของคณะกรรมาธิการ
อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามอย่างยิ่งจากนายยศวริศ ที่ต้องการให้เป็นกรรมาธิการจากพรรคก้าวไกลเท่านั้น ในการเป็นตัวแทนลงไปรับหนังสือร้องเรียนแทนกรณีไม่ว่าง
และระหว่างการสนทนากันทางโทรศัพท์ ที่ได้โทรกลับไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 2-3 ครั้ง เพื่อต้องการสอบถามข้อมูล ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปของข้อร้องเรียน เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น นายยศวริศ มีการอ้างถึง “รัฐมนตรีช่วย” ท่านหนึ่งว่าเป็นคนส่งข่าว และส่งข้อมูลนี้มาให้กับเขา เพื่อขอให้ กมธ. ช่วยตรวจสอบ
จากกรณีดังกล่าว ได้สอบถามไปยัง สส.ซึ่งเป็นกรรมาธิการคณะนี้ ที่สังกัดพรรคเดียวกับ “รัฐมนตรีช่วย” ที่ถูกอ้างถึง เพื่อขอให้ทวนสอบยืนยันกับรัฐมนตรีช่วยท่านนั้นว่า ข้อร้องเรียนดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยันใดๆ กลับมา (ตั้งแต่วันนั้น จนถึงในปัจจุบัน)
พบ 3 ปมพิรุธ "รัฐมนตรีช่วย"
(1) ถ้าเป็นเรื่องที่มาจาก “รัฐมนตรีช่วย” จริง ทำไมไม่ฝาก สส. ในพรรคเดียวกัน ซึ่งนั่งอยู่ในกรรมาธิการชุดนี้ เสนอเรื่องเพื่อบรรจุวาระใน กมธ. ได้เลย ทำไมต้องฝากผ่านผู้ร้องมาร้องแทน
(2) หากพิจารณาในมุมการเมือง ก็อาจเป็นไปได้ว่า เป็นเพราะว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลด้วยกัน จึงไม่สามารถออกหน้าได้ อาจต้องอาศัยพรรคฝ่ายค้านในการตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลด้วยกันที่อยู่คนละพรรค แต่หากเป็นกรณีนี้จริง เหตุใดผมจึงไม่ได้รับการยืนยันกลับมา จากการทวนสอบข้อมูลหลังบ้าน ผ่านสส.ร่วมพรรคเดียวกันกับรัฐมนตรีช่วยที่ถูกอ้างถึง
(3) เหตุใด กรณีนี้ถึงค่อนข้างเฉพาะเจาะจง (เรียกได้ว่าถึงขั้นคะยั้นคะยอ) ว่าต้องเป็น สส.พรรคก้าวไกล เท่านั้นลงไปรับหนังสือร้องเรียนแทน
จากข้อพิรุธทั้ง 3 ข้อ ทำให้ตัดสินใจยังไม่บรรจุวาระเรื่องร้องเรียนตามข้อ (1) จนกว่าจะสืบหามูลเหตุข้อเท็จจริงให้มีความแน่ชัดเสียก่อน
ข้อมูลทั้งหมด ที่อยู่ในส่วนของข้อมูลเพิ่มเติม เป็นข้อมูลที่ถึงแม้จะไม่ได้บันทึกคลิปเสียงสนทนาไว้เป็นหลักฐาน แต่มีบันทึกโทรศัพท์ (Call Log) ที่สามารถตรวจสอบได้จากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือว่าผมได้โทรติดต่อกลับนายยศวริศ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และได้โทรหา สส.พรรคเดียวกับ “รัฐมนตรีช่วย” ที่ถูกกล่าวอ้างเพื่อทวนสอบข้อมูลจริง
อธิบดีกรมการข้าวและภรรยา เข้าพบตำรวจ
นอกจากนี้ ยังได้มีการโทรหา สส.ร่วมพรรคและร่วมกรรมาธิการ เพื่อปรึกษาหารือถึงกรณีดังกล่าวในวันที่ 19 ธ.ค.2566 ราว 3-4 ท่านจริง ซึ่งทุกท่านเป็นพยานให้กับผมได้ หากต้องมีการให้การเพิ่มเติมประกอบการดำเนินคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ ผมขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อบุคคลที่สามที่ยังไม่ปรากฏบนหน้าข่าวที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ในตอนนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการพาดพิง และสร้างผลกระทบต่อบุคคลเหล่านั้นโดยไม่จำเป็น
ผมขอปฏิเสธ ถึงข้อกล่าวอ้างใดๆ ตามภาพในโพสต์ ที่มีการกล่าวอ้างว่าบุคคลผู้นั้นผู้นี้ สามารถเคลียร์กับผมได้ สามารถขอให้หยุดการดำเนินเรื่องในคณะกรรมาธิการได้
และเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ กับคดีการเรียกตบทรัพย์ในครั้งนี้ และขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ที่เจตนาทุจริตอย่างเต็มที่ที่สุด หากมีผู้ใดพยายามใช้คณะกรรมาธิการเป็นเครื่องมือในการเรียกตบทรัพย์ พร้อมให้ความร่วมมือในการเข้าให้การ และให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ
อ่านข่าว
เปิด 4 โครงการ "ศรีสุวรรณ" เตรียมร้อง "บิ๊กกรมข้าว"