วันนี้ (26 ม.ค.2567) นพ.ทินนกร ยาดี นายแพทย์ชำนาญการ สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการตรวจ Sleep Test ว่า การตรวจการนอน ไม่ได้จำเป็นสำหรับโรคหยุดหายใจขณะหลับเท่านั้น ยังรวมไปถึงโรคลมหลับและนอนละเมอที่มีการเคลื่อนไหวโดยไม่รู้ตัว
โดยบุคคลที่เข้ารับการตรวจ Sleep Test ต้องเป็นบุคคลที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพการนอนหลับ นอนเท่าไหร่ไม่พอ รู้สึกง่วงนอน แม้ว่าใช้ระยะเวลานอนเป็นเวลานอน ไม่ใช่คนที่มีปัญหาการนอนไม่หลับ จากภาวะเครียด หรือ ซึมเศร้า
ความผิดของการนอนหลับ ส่งผลให้สมองขาดออกซิเจน ส่งผลให้สมองเสื่อม กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ ความดันโลหิต และโรคอื่น ๆ
ผู้ชาย-คนอ้วน มีโอกาสเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ
นพ.ทินนกร กล่าวว่า ความผิดปกติจากการนอนสามารถดูได้จากชอบหลับเวลากลางวัน นอนไม่อิ่ม หรือทำกิจกรรมอื่น เช่น คุย หรือ ทำงาน ก็สามารถหลับได้โดยไม่รู้ตัว
ลักษณะเช่นนี้อาจเข้าข่ายโรคลมหลับ คือ หลับได้ทุกที่ ส่วนหยุดหายใจขณะหลับ จะเกิดขึ้นเวลานานแล้วหยุดหายใจ คู่นอนสามารถสังเกตได้ หรืออาจมีอาการกรนมากโดยไม่รู้ตัว หรือการนอนละเมอ หากละเมอผิดที่ก็เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น บางคนละเมอเคลื่อนไหวตกระเบียง
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ พบในเพศชายมากกว่าหญิง และในคนที่มีภาวะอ้วน BMI เกิน 27 ซึ่งการรักษา มีตั้งแต่การใช้เครื่องความดัน อัดออกซิเจนให้ร่างกายได้ออกซิเจนอย่างเพียงพอ ขณะหลับ หรือการลดความอ้วน
กระบวนการตรวจครอบคลุมทุกสิทธิ รักษาจำกัดแค่สิทธิขรก.
นพ.ทินนกร กล่าวว่า ที่ผ่านมากระบวนการ Sleep Test สามารถเบิกจ่ายได้ ในระบบสิทธิราชการและบัตรทอง หรือระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และล่าสุดสิทธิประกันสังคม แต่จะรับการตรวจได้ต่อเมื่อแพทย์วินิจฉัยบ่งชี้ และเห็นสมควรได้รับการตรวจเพิ่ม หลังการตรวจกระบวนการรักษา ในกรณีใช้เครื่องความดันอากาศครอบคลุม แค่ สิทธิข้าราชการเท่านั้น