วันนี้ (15 ม.ค.2567) ในเวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้นัดทีมสหวิชาชีพ เพื่อทำการสอบปากคำกลุ่มเยาวชนต้องสงสัยก่อเหตุฆาตกรรมสาววัย 47 ปี ทิ้งในสระน้ำข้างโรงเรียน จ.สระแก้ว
ซึ่งทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.บัวผัน อายุ 47 ปี เสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อแขนกุด นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีแผลแตกที่ศีรษะและใบหน้า เสียชีวิตมาแล้วกว่า 1 วัน เบื้องต้น จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นหญิงสติไม่ดี เดินเร่ร่อนในบริเวณละแวกใกล้กับบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นประจำ และเชื่อว่า น่าจะถูกฆาตกรรม
โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรที่ รพ.อรัญประเทศ และ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จ.ปราจีนบุรี เพื่อผ่าชันสูตรเพิ่มเติม โดย พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้สั่งการภายหลังลงพื้นที่จุดเกิดเหตุด้วยตนเอง เพื่อสอบสวนหาสาเหตุของการฆาตกรรมพร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุนั้น
พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ เผยเปิดว่า กระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น. มีนายปัญญา อายุ 54 ปี สามีผู้ตาย มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน จนถึงแก่ชีวิต โดยให้การเป็นฉากเป็นตอน และนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำรายงานสืบสวนและนำตัวฝากขัง ที่ศาลจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ม.ค.67
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในคดีนี้ สภ.อรัญประเทศ ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายปัญญา จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนฯ ทำการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อทราบรายละเอียดและพฤติการณ์ในคดีที่แท้จริง โดยปรากฏพยานหลักฐานใหม่ในคดี ดังนี้
1.ไม่พบว่า นายปัญญา ปรากฏตัวในไทม์ไลน์ ที่เกิดเหตุตามที่กล่าวอ้าง และ 2.ปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิด ว่าผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน หรือ กบ เป็นกลุ่มเยาวชน จำนวน 5 คน จึงสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำผิด และตำรวจสามารถเข้าจับกุมตัวได้แล้วทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 13-16 ปี ประกอบด้วยเยาวชนอายุ อายุ 16 ปี อายุ 14 ปี 2 คน อายุ 13 ปี 2 คน ซึ่งหนึ่งใน 5 เยาวชน เป็นลูกของตำรวจรายหนึ่ง โดยทั้งหมดใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน
สำหรับพฤติการณ์ในคดี พบว่า เวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 10 ม.ค. ถึงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค. วันเกิดเหตุ กลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุ นั่งรวมกลุ่มกันที่บริเวณริมขอบสระภายในเทศบาลเมืองอรัญประเทศ มีสองคนในกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปแหย่ น.ส.บัวผัน ผู้เสียชีวิต ซึ่งมีลักษณะเป็นบุคคลเร่ร่อน สติไม่ค่อยดี และติดสุราเรื้อรัง ซึ่งนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ทำให้ผู้ตายเอะอะโวยวายและปาขวดใส่หัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ
กระทั่ง เวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค. กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถมาพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกห่างจากจุดเดิม ประมาณ 800 เมตร กลุ่มผู้ก่อเหตุ จึงลงจากรถหลอกล่อให้ผู้ตายเดินไปหา แต่ผู้ตายไม่ยอมเดินไป กระทั่งผู้ก่อเหตุอีกคนเดินเข้าไปหาผู้ตายในมุมด้านข้าง แล้วเตะเข้าที่บริเวณใบหน้าของผู้ตาย เป็นเหตุให้ผู้ตายหงายหลัง และนั่งร้องไห้อยู่บริเวณดังกล่าว
จากนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุได้อุ้มผู้ตายขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่ผู้ตายดิ้นรนจนตกหล่นจากรถ กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงขับรถออกไป และวนกลับมาบังคับอุ้มผู้ตายขึ้นรถอีกครั้งจนสำเร็จ มุ่งหน้าไปทางโรงเรียนศรีอรัญโญทัย
ต่อมา เวลาประมาณ 02.40 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุปรากฏตัวที่ร้านล้างรถหยอดเหรียญ เพื่อล้างรถที่ใช้ก่อเหตุ จนถึงเวลาประมาณ 03.00 น. พบกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกสาขาอรัญประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบพยานหลักฐานดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จึงสืบสวนจนทราบชื่อ และนามสกุล ที่อยู่ของเด็กวัยรุ่นผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหมดได้เชิญตัวมาที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อซักถามข้อมูลมูลเบื้องต้น ต่อหน้าผู้ปกครองเยาวชนทั้งหมด และให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ทำร้าย น.ส.บัวผัน ผู้ตายคนดังกล่าวจริง โดยมูลเหตุในการกระทำในครั้งนี้ วัยรุ่นทั้ง 5 คน ให้การว่า ทำไปเพราะตามเพื่อน
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก โดยได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ที่ใช้ในการก่อเหตุ และเสื้อผ้าของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุมาด้วย
อ่านข่าวอื่นๆ :