เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง โพสต์ข้อความใน X ระบุว่า รัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุน Soft Power ของไทย ซึ่งการให้วีซาพิเศษ 90 วัน (จากวีซาปกติ 60 วัน) แก่คนที่สนใจจะเข้ามาเรียนมวยไทยเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยด้วยการใช้ความเป็นไทยส่งออกไกลไปทั่วโลก
พร้อมระบุอีกว่า ไม่เฉพาะเพียงมวยไทยเท่านั้น แต่ Soft Power อื่นๆ อย่าง รำไทย ดนตรีไทย การเรียนทำอาหารไทย ฯลฯ ก็พร้อมสนับสนุนและเตรียมพิจารณาให้วีซาพิเศษเป็นลำดับต่อไป
ผม และรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุน Soft Power ของไทยครับ การให้วีซ่าพิเศษ 90 วัน (จากวีซ่าปกติ 60 วัน) แก่คนที่สนใจจะเข้ามาเรียนมวยไทยเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยด้วยการใช้ความเป็นไทยส่งออกไกลไปทั่วโลกครับ…
— Srettha Thavisin (@Thavisin) January 14, 2024
ขณะที่มีผู้ใช้งาน X หลายคนเเสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ เช่น เป็นความคิดที่ดี เพราะเป็นวิธีหาเงินเข้าประเทศโดยไม่ต้องใช้งบประมาณ บางคนระบุว่าเป็นไอเดียดี กระสุนนัดเดียวได้นกสามตัว หนุนธุรกิจที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมการศึกษา ธุรกิจท่องเที่ยวเเละสร้างฑูตวัฒนธรรมเพิ่มไปในตัว
ส่วนอีกความเห็นระบุว่า ซอฟต์เพาเวอร์ของนายกฯ ดูกว้างและแตกแยกย่อย แต่ควรโฟกัสทีละอย่าง ทีละเรื่อง ซึ่งซอฟต์เพาเวอร์แลดูเป็นแค่ Concept ประชาชนตัวเล็กๆ เข้าไม่ถึง เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เป็นประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ครั้งที่ 1 ออกมาระบุว่า ในการประชุมครั้งแรกเรื่องแผนขับเคลื่อนมวยไทย เป็นประเด็นที่ได้หารือกัน ที่ประชุมมีข้อสรุปว่า รัฐบาลต้องสร้างมาตรฐานครูมวยไทย ทั้งการจัดอบรมพร้อมกับมอบประกาศนียบัตรเพื่อส่งออกครูสอนมวยในต่างประเทศ ถือเป็นการสร้างมูลค่าให้กับบุคลากรมวยไทยตามหลักสากล
ปัจจุบัน "มวยไทย" ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย ข้อมูลจากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาในปี 2561 พบว่าการท่องเที่ยวเชิงกีฬามีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นเฉพาะตลาดมวยไทย มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท เติบโตร้อยละ 5 ซึ่งในปี 2562 ตลาดมวยไทยเติบโตได้ที่ร้อยละ 10 มูลค่ารวมเพิ่มขึ้นกว่า 1.2 แสนล้านบาท หรือเทียบเท่ากับมูลค่ารวมของตลาดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
อย่างไก็ตาม เชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยในการผลักดันให้รายได้รวมของภาคการท่องเที่ยวเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้กว่า 3.38 ล้านล้านบาทได้ ซึ่งในไทยมีค่ายมวยและยิมมวยไทยกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศและมีศักยภาพรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อ่านข่าวอิ่นๆ
กสทช.ประกาศคนมีเบอร์เกิน 6 ซิม ต้องยืนยันตัวตน เริ่ม 16 ม.ค.นี้
คิกออฟ "ตลาดนัดแก้หนี้" ทั่วประเทศ ลูกหนี้-เจ้าหนี้ ร่วมไกล่เกลี่ย