เขตเมืองปัตตานีอ่วม ระดับน้ำเพิ่มสูง ชาวบ้านเดือดร้อน 6 พันคน

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เมืองปัตตานียังวิกฤต และปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ย่านเศรษฐกิจเสียหายอย่างหนัก ขณะนี้มีพื้นน้ำท่วมแล้ว 6 ตำบล ประชาชนเดือดร้อนกว่า 6,000 คน

วันนี้ (29 ธ.ค.2566) เส้นทางสายหลักเข้าสู่ตัวเมืองปัตตานีถูกมวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีไหลเข้าท่วมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และร้านค้าถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก เข่นเดียวกับถนนเกือบทุกสายในย่านการค้า ไม่ว่าจะเป็น ถนนพิพิธ ถนนอุดมวิถี ถนนกะลาพอ ถนนจะบังติกอ ถนนยะหริ่ง ถนนหนองจิก ถูกน้ำท่วมทั้งหมด

โดยเฉพาะที่ถนนหนองจิกบางจุด ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำแผงกั้นมาวางไว้ เพื่อให้ผู้ขับขี่เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น โดยในช่วงเช้าประชาชนที่เดินทางไปทำงานในช่วงเช้าเป็นจำนวนมากจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ และยังพบว่า รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านเสียระหว่างจำนวนมาก

ขณะที่ปริมาณน้ำในเเม่น้ำปัตตานีที่ยังอยู่ในระดับวิกฤตเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในเขตเมือง โดยเฉพาะที่ชุมชนจะบังติกอติดริมแม่น้ำ นางแวมารียำ สาลาตาโซะ ผู้ประสบอุทกภัย จ.ปัตตานี บอกว่าทุกปีทีนี้จะถูกน้ำท่วม จึงได้เตรียมตัวอยู่บ้างและต้องทำใจเพราะอยู่ติดริมน้ำ

“ถามว่ากังวลไหม ก็กังวลนะ เพราะชีวิตเราติดกับแม่น้ำ รอบนี้พอรู้ว่าน้ำท่วมที่ จ.ยะลา เราก็เริ่มขนของแล้ว แต่บางส่วนอย่างตู้เย็นก็ยกได้แค่นิดหน่อย เพราะหนัก ถ้าน้ำมากกว่านี้ ก็ต้องทำใจอย่างเดียว” นางแวมารียำ กล่าว

แต่สำหรับนางรอฮานา เจ๊ะเต๊ะ ที่บ้านท่วมน้ำเกือบทุกปีเช่นกันในชุมชนจะบังติกอ บอกว่า เริ่มชินแล้ว เธอจึงปรับตัวรับมือกับน้ำให้ได้ และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการเปิดขายส้มตำกลางน้ำ

“ถ้าคิดมากก็เครียด เราก็ต้องปรับตัว ปกติก็เปิดร้านขายส้มตำ พอน้ำท่วมเยอะคนก็ชอบมาดู เด็กๆ ก็มาเล่นน้ำกันมา ก็เลยเปิดขายส้มตำ ซึ่งขายดีกว่าปกติด้วยซ้ำ เพราะคนมาก”

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำที่มีจำนวนมากในเเม่น้ำปัตตานี ทำให้ทางเทศบาลเมืองปัตตานี นำธงสัญลักษณ์สีแดงแจ้งเตือนมาติดตั้งบนสะพานเกือบทุกแห่ง และใช้เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากถนนอย่างเร่งด่วน โดยได้นำเครื่องสูบน้ำ จำนวน 66 ตัว ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ รอบตัวเมืองปัตตานี เพื่อเร่งระบายน้ำ และเตรียมรับมือระดับน้ำที่คาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งใช้เสียงตามสายประกาศให้ประชาชนเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และย้ำเตือนให้ดูแลบุตรหลานที่ออกมาเล่นน้ำท่วมในช่วงนี้ เนื่องจากน้ำมีความเชี่ยว และกระแสน้ำแรง อาจเป็นอันตรายได้

สำหรับในพื้นที่เมืองปัตตานีขณะนี้ มีพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว 6 ตำบล ประชาชนเดือดร้อนกว่า 6,000 คน