กรณีใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ เปิดทางคนตระกูลดามาพงศ์ เป็นผบ.ตร. และกรณีเตรียมเดินทางกลับประเทศไทย ตามรอยพี่ชาย นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปูทางไว้แล้ว
ถือเป็นข่าวดีสำหรับพรรคเพื่อไทย คนพรรคเพื่อไทย และแฟนคลับยิ่งลักษณ์ รวมทั้งกองเชียร์ที่เป็น “นางแบกเพื่อไทย” ทั้งหลาย ต่างรู้สึกได้รับความเป็นธรรมกลับคืน
หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ตกเป็นเสมือนตัวร้ายมานาน เรื่องช่องทางการกลับประเทศไทยเพื่อรับโทษ ก็มีช่องทางที่พี่ชายทำเอาให้เดินตามรอยอยู่แล้วว่า ไม่ได้ยากลำบากถึงขั้นต้องไปนอนคุกในตะรางแออัดยัดเยียดกับนักโทษคนอื่น ๆ ชนิดเข้าห้องน้ำกลับมา ไม่มีที่ให้แทรกตัวนอนได้ อย่างที่นักโทษทั่วไปต่างได้รับ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคดีคงค้างเพียง 2 คดี คดีแรกศาลยังไม่ได้พิพากษาตัดสิน เป็นคดีถูกกล่าวหาพร้อมพวกในรัฐบาลเมื่อครั้งเป็นนายกฯ อนุมัติงบ 240 ล้านบาท เมื่อปี 2556 ให้เอกชนเพื่อทำโครงการโรดโชว์ สร้างอนาคตไทยปี 2020 โดยมิชอบ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลฎีกา และศาลสั่งออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว
ส่วนที่ศาลพิพากษาแล้ว คือโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ล็อตแรก ที่บางคนเรียกว่าจีทูเก๊ เพราะไม่ได้ส่งออกจริง คดีนี้ศาลพิพากษาลับหลัง เป็นผลจากหลบหนีไม่ยอมไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง เมื่อปี 2560 ถูกพิพากษาจำคุก 5 ปี พร้อมออกหมายจับ และอายุความยังอยู่ถึงปัจจุบัน
ส่วนคดีอื่น ๆ ที่เคยเป็นข่าว โดยเฉพาะโครงการระบายข้าว จีทูจี ล็อต 2 ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า จะโดนกล่าวหาพร้อมนายทักษิณ พี่ชาย และเจ๊แดง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว แต่สุดท้าย ป.ป.ช.ได้ยกคำร้องกล่าวหา เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานตามที่ร้องเรียน
แม้จะเคยมีข่าวว่า ได้ข้อมูลลับเข้มข้นจากรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลบางคน ในสมัยรัฐบาลสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมข้อเสนอทั้งต่อตนเอง และเส้นทางการเมืองของทายาท
นอกจากนี้ ยังเคยมีข่าวว่า จะถูกกล่าวหาในโครงการซื้อขายมันเส้น หรือมันสำปะหลังแบบจีทูจีเช่นกัน มูลค่าความเสียหาย 3 หมื่นล้านบาท ทั้งล็อตหนึ่งล็อตสอง แต่เกิดเหตุระบาดโควิด 19 ทำให้จากนั้นไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวอีกเลย
เท่ากับคดีที่ศาลตัดสินแล้วมีเพียงคดีระบายข้าวจีทูจี โทษจำคุก 5 ปี ซึ่งต่ำกว่าโทษที่นายทักษิณพี่ชายถูกพิพากษาจำคุก 3 คดีโทษรวมกัน 8 ปี แต่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือจำคุก 1 ปี
กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ หากเดินตามแนวทางของนายทักษิณ ดังที่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ มือกฎหมายระดับปรมาจารย์ ชี้ช่องไว้ น.ส.ยิ่งลักษณ์น่าจะเหลือไม่เกิน 1 ปี หรืออาจน้อยกว่านั้น
ส่วนข้ออ้างโรคภัยไข้เจ็บ จนต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ ตามอย่างนายทักษิณ ต้องรอตรวจสอบว่า เคยป่วยหรือรักษาด้วยอาการและโรคอะไรบ้าง แต่บางคนเชื่อว่า น่าจะเป็นโรคหรืออาการของคนในวัยสูงอายุ ซึ่งมักจะมีหลายโรคที่ผู้หญิงต้องหมั่นตรวจสอบดูแลสุขภาพ
โครงการระบายข้าวแบบจีทูจี ล็อตแรกนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังได้ทราบข่าวดีก่อนหน้านี้ เมื่อศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายในโครงการนี้ 3.57 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2564
ทั้งให้เพิกถอนคำสั่ง ประกาศ และการยึดอายัดทรัพย์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อขายทอดตลาดทั้งหมด แม้จะมีข่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมยื่นอุทธรณ์ แต่จนถึงขณะนี้ ไม่มีข่าวว่าได้ยื่นอุทธรณ์ศาลอย่างที่อ้างหรือไม่
เท่ากับทางสะดวกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีมากไม่น้อย แม้จะมีประเด็นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงรองนายกฯ ผู้รับผิดชอบกระทรวงยุติธรรม (ยกเว้นดีเอสไอ) จากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไปเป็นนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค โดยพยายามโยงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ
แต่ความจริงก็เป็นไปตามที่นายเศรษฐา ออกโรงแจกแจงล่าสุดว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้ว ภารกิจสำคัญในการเดินหน้าต่อเรื่องนี้ รวมทั้งกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย ต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติและคอนเน็คชั่นพิเศษ ไม่ใช่ใครก็ทำได้
เท่ากับครบถ้วนกระบวนความ สำหรับแนวทางและโอกาสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในคดีนี้ ตามเหตุผลข้ออ้างว่า เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์และกฎหมาย ตามที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ได้ย้ำเอาไว้
ไม่เกินปีหน้า 2567 เชื่อว่าจะได้เห็นการขยับของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เรื่องการเตรียมเดินทางกลับประเทศไทย เพราะหากไม่รีบทำในช่วงโอกาสเปิดกว้างแบบนี้แล้ว ไม่รู้จะทำตอนไหน ?
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา