เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2566 สถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีน เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ซึ่งระดมกำลังไม่ต่ำกว่า 4,000 คน เดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิตและช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ศูนย์กลางอยู่ที่เขตปกครองตนเองหลินเซี่ย หุย ในเทศมณฑลจีฉือชาน มณฑลกานซู ห่างจากรอยต่อมณฑลชิงไห่เพียง 5 กิโลเมตร เมื่อกลางดึกวันที่ 18 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น และเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง
การปฏิบัติภารกิจกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศหนาวจัด อุณหภูมิติดลบ 15 องศาเซลเซียส และบางพื้นที่เส้นทางเข้าหมู่บ้านเป็นถนนแคบๆ รถใหญ่ไม่สามารถเข้าไปถึง เจ้าหน้าที่ต้องแบกอุปกรณ์และเดินเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งขุดซากปรักหักพังในหมู่บ้านที่มณฑลกานซู เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว
นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ยังได้รับความเสียหายทั้งไฟฟ้า น้ำประปาและสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดขาด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและยังทำให้โอกาสพบผู้รอดชีวิตน้อยลงกว่าเดิม
ตัวเลขผู้เสียชีวิตในมณฑลกานซูและมณฑลชิงไห่ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 127 คน ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 700 คน สูญหาย 20 คน และอาคารบ้านเรือนมากกว่า 155,000 แห่งได้รับความเสียหาย ขณะที่เต็นท์ 2500 หลัง เสื้อคลุม 20,000 ตัว และเตียงเสริม 5,000 เตียงถูกส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว
ด้าน สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เรียกร้องให้ทางการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต็มที่ ขณะที่กระทรวงการคลังและกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินของจีน จัดสรรงบประมาณ 200 ล้านหยวน หรือประมาณ 999 ล้านบาทให้ทั้ง 2 มณฑลที่ได้รับผลกระทบ
หมู่บ้านในเทศมณฑลจีฉือชาน มณฑลกานซู ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว
เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ถือเป็นครั้งเลวร้ายที่สุดของจีนในรอบ 13 ปี หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ในมณฑลชิงไห่เมื่อปี 2010 ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปร่วม 2,700 คน
ขณะที่เขตปกครองตนเองหลินเซี่ยหุย ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ยังถือเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากที่สุดและยากจนที่สุดของจีน โดยเป็นศูนย์กลางของชาวมุสลิม หุย ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่ในจีน รวมถึงชุมชนชาวจีนมุสลิมอื่นๆ ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง