วันนี้( 13 ธ.ค.2566 )นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดหลักๆ เช่น เชียงใหม่, ภูเก็ต ,กรุงเทพฯ และพัทยา
เนื่องจากข้อมูลจากการตรวจสอบผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2565 จำนวนกว่า 15,000 ราย พบว่ามี 400 ราย ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว อยู่ในเกณฑ์น่าสงสัยที่ต้องตรวจสอบเชิงลึก ทั้งสัดส่วนผู้ถือหุ้น งบการเงิน ทั้งนี้วันศุกร์ที่ 15 ธ.ค.2566 กรมฯจะแถลงมาตรการป้องกันการเข้ามาของกลุ่มทุนผิดกฎหมาย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยว ข้อมูลวันที่ 11 ธ.ค. 66 พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา จำนวน 25,736,865 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 1,098,082 ล้านบาท นักท่องเที่ยวจากจีน เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุดจำนวน 100,704 คน รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย (94,513 คน) รัสเซีย (42,166 คน) เกาหลีใต้ (40,572 คน) และอินเดีย (39,053 คน)
ด้านนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า การท่องเที่ยวในประเทศช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2566 มีแนวโน้มคึกคัก โดยเฉพาะในภาคเหนือ และการท่องเที่ยวภายในภูมิลำเนาทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
ดังนั้น หน่วยงานและสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องควรเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก ทั้งการจราจร การบริหารจัดการพาหนะขนส่งสาธารณะให้เพียงพอ และการดูแลสถานที่ท่องเที่ยวให้เกิดความแออัดน้อยที่สุด ตลอดจนการเตรียมบริการสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้สามารถรองรับจำนวนประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน
อ่านข่าว:
แรงงาน-นายจ้าง ยิ้มไม่ออก ! ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2 บาท "ดีกว่าไม่ได้"
เอกชนแนะหนีปรับขึ้นค่าแรง ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง "แทนคน"
ราคาสินค้า-บริการ ฉุดกำลังซื้อประชาชน
อย่างไรก็ตาม ความกังวลที่ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนยังระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ในส่วนของประเด็นระดับราคาสินค้าและบริการ และภาระทางการเงิน กระทรวงพาณิชย์ได้กำกับดูแลการจำหน่ายสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงโอกาสสำคัญและเทศกาลต่าง ๆ ที่ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากเป็นพิเศษ เพื่อให้มีปริมาณจำหน่ายเพียงพอในระดับราคาที่เหมาะสม
ขณะเดียวกัน ยังได้ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้เกษตรกร และผู้ประกอบการทุกระดับ เพื่อเพิ่มรายได้และขยายโอกาสในการประกอบอาชีพให้กับประชาชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศให้เกิดความเข้มแข็ง ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างสมดุล และจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ
ภาคเหนือยังเป็นจุดหมายที่ครองใจประชาชนอันดับหนึ่ง และคาดว่าจะใช้จ่ายไม่เกิน 10,000 บาท/คน/ทริป ในหมวดค่าเดินทาง อาหาร และที่พัก แต่ความกังวลด้านภาระทางการเงิน ระดับราคาสินค้าและบริการ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ระมัดระวังการใช้จ่ายและยังไม่มีแผนการท่องเที่ยว
อ่านข่าว: