หลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)เปิดไฟเขียวเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 66 ปรับขึ้นราคาน้ำตาล 2 บาท น้ำตาลทรายขาวหน้าโรงงาน ปรับไปอยู่ที่ 21 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ อยู่ที่ 22 บาทต่อกิโลกรัม ตามข้อเสนอแนวทางการบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
ส่วนราคาจำหน่ายปลีกน้ำตาลทราย คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) กระทรวงพาณิชย์ มีมติยกเลิกมาตรการควบคุมราคาจำหน่ายปลีกน้ำตาล จากประกาศเดิมคุมราคาจำหน่ายปลีกในพื้นที่กรุง เทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง
น้ำตาลทรายที่ตลาดสด
น้ำตาลทรายที่ตลาดสด
น้ำตาลทรายขาวธรรมดาขายราคาไม่เกิน 24 บาทต่อกิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ไม่เกิน 25 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายขายปลีกจากนี้ไปราคาจะลอยตัว ซึ่งสิ่งที่ตามมา คือ ราคาเครื่องดื่ม ขนมหวาน หรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบอาจจะทยอยปรับราคาขึ้น ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ร้านขนม "ลดปริมาณ"แต่ยังไม่ปรับราคา
“ไทยพีบีเอส ออนไลน์”ลงพื้นที่สำรวจราคาขนมหวานในย่านบางเขน และสะพานควาย จากการสอบถาม ร้านขายขนมหวานที่ตลาดบางเขน บอกว่า ขายขนมหวานที่ตลาดดังกล่าวมานานแล้ว ลูกค้ามีทั้งขาจรและขาประจำ ราคาขายกล่องละ 20 บาท มีขนมหวานหลากหลาย ทั้ง ทองหยิบ ทองหยอด ขนมถ้วย ขนมตาล ขนมชั้น เป็นต้น ซึ่งใช้น้ำตาลเป็นส่วนผสม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
กรมการค้าภายในยืนยัน "น้ำตาล" ไม่ขาดตลาด
แม่ค้าขนมหวาน บอกว่า แม้รัฐบาลจะประกาศปรับราคาน้ำตาลขายปลีก ขึ้นกิโลกรัมละ 2 บาท แต่ยังไม่กระทบต่อต้นทุนการทำขนมเพราะยังมีสต็อกน้ำตาลเหลืออยู่ และยังไม่ปรับราคาขึ้นเพราะเห็นใจผู้บริโภค เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวจึงไม่อยากซ้ำเติมผู้ซื้อ แต่ในอนาคตก็อาจจะปรับขึ้นราคาหากต้นทุนสูงกว่านี้
ขนมหวาน
ขนมหวาน
อาจจะใช้วิธีลดปริมาณลงแต่ขายในราคาเท่าเดิม โดยขนมที่ร้านขายกล่องละ 20บาท ถือว่าราคาไม่แพง บางครั้งผู้ซื้อก็ขอลดราคา 3 กล่อง 50 บาท
สายคาเฟรับ "กระทบ" แต่ยังรับราคาได้
ด้านนายวรพล เพชรสถทธิ์ พนักงานบริษัทย่านวิภาวดี กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งร้านค้า และผู้บริโภค อย่าง ร้านน้ำ ร้านกาแฟ ต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะใช้น้ำตาลเป็นองค์ประกอบหลัก และการปรับราคาน้ำตาลขึ้นต้องส่งผลกระทบต่อร้านน้ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และสุดท้ายอาจจะต้องปรับราคาขึ้น ส่วนในด้านของผู้บริโภคเองก็ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น เมนูละ 5-10 บาท
ส่วนตัวดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว เฉลี่ยวันละ 120 บาท ก็คงไม่ปรับลดปริมาณที่ดื่มต่อวัน เพราะยังพอรับได้กับราคา แต่อาจจะไม่ดื่มทุกวัน อยากให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือทั้งผู้บริโภคและร้านค้าที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
เช่นเดียวกับน.ส.นารีรัตน์ สิทธิธัญญาศิลป์ พนักงานบริษัทเอกชน กล่าวว่า หากขนมหวาน และเครื่องดื่มปรับราคาขึ้นคงต้องเตรียมใจ ส่วนตัวเองไม่ได้อยากให้มีการปรับราคาน้ำตาลขึ้น เพราะกระทบหลายฝ่ายทั้งผู้บริโภคและร้านค้า แต่ก็เห็นใจเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่แบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น
ปกติดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว แก้วละ 60บาท เฉลี่ยทั้งเดือนก็ 3,600 บาท ก็ถือว่าสูง หากเครื่องดื่มปรับราคาขึ้นคงไม่ลดปริมาณจำนวนแก้วที่ดื่ม แต่อาจะลดวัน ถามว่าอยากให้ขึ้นหรือไม่ก็ไม่อยากให้ขึ้นเพราะเศรษฐกิจแบบนี่ทำให้ค่าใช้ของประชาชนจ่ายเพิ่มขึ้น
พาณิชย์ "จำกัดซื้อ" น้ำตาลไม่ขาดตลาด
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การซื้อขายน้ำตาลทรายของกรมการค้าภายในต่อเนื่อง ทั้งห้างค้าปลีกค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกทั่วไป ศูนย์กระจายสินค้า พบน้ำตาลทรายมีเพียงพอ
โดยราคาในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ-ขายกิโล กรัมละ 26-27 บาท ร้านค้าปลีกทั่วไป 28-30 บาท
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจปริมาณน้ำตาลทรายในระบบ
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจปริมาณน้ำตาลทรายในระบบ
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ปัจจุบันน้ำตาลทรายมีเพียงพอในการจำหน่าย แต่ยังคงจำกัดปริมาณการจำหน่ายอยู่บ้าง เช่น 3-6 กิโลกรัม ต่อ 1 ใบเสร็จ โดยจำหน่ายน้ำตาลทรายขาว ราคา 26 บาทต่อกิโลกรัม
ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ราคา 27 บาทต่อกิโลกรัม ร้านค้าปลีกทั่วไป เริ่มมีน้ำตาลทรายจำหน่ายตามปกติ ในราคา 28-30 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่ศูนย์กระจายสินค้า ของห้างค้าปลีกค้าส่ง และร้านสะดวกซื้อ ก็สามารถสั่งซื้อน้ำตาลทราย และสามารถกระจายให้แต่ละสาขานำไปจำหน่ายได้ตามปกติ
น้ำตาลทรายในตลาดสด
น้ำตาลทรายในตลาดสด
ไม่ปิดป้ายราคาขายน้ำตาลเจอโทษหนัก
นายอุดม กล่าวถึงกรณีร้านค้าไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายน้ำตาลทราบจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากจำหน่ายสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100, 000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า ประวิงการจำหน่ายหรือปฏิเสธการจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ชาวไร่อ้อยขอ "ภูมิธรรม" อีก 2 บาท เข้ากองทุนแก้ฝุ่น PM 2.5