วันนี้ (9 พ.ย.2566) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า หลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ และรัฐบาลมีนโยบายลดค่าครองชีพ ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน รวมทั้งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ทำให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่น และมองว่าการเมืองไทยกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่ความขัดแย้งทางการเมืองคลี่คลายลง จึงส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ย.2566 สูงสุดรอบ 42 เดือน
ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค.66 อยู่ที่ระดับ 60.2 ปรับตัวดีขึ้นจากในเดือน ก.ย.ที่ 58.7 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และปรับตัวสูงสุดในรอบ 44 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค.62
ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนโยบายลดค่าครองชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น ลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมัน คนจึงรู้สึกว่าเศรษฐกิจค่อยๆ ดีขึ้นใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลางที่อาจยืดเยื้อบานปลาย ตลอดจนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลลบต่อการส่งออกของไทยทำให้การส่งออกในช่วงนี้หดตัวลง และมีผลกระทบในเชิงลบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทุกภูมิภาค
อ่านข่าวอื่นๆ :
เงินเยนอ่อนค่ารอบ 26 ปี แนะซื้อสะสมระยะสั้น