วันนี้ (7 พ.ย. 2566) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ 2 มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกเพื่อช่วยเหลือชาวนาในการดูดซับปริมาณข้าวออกจากตลาด แบ่งเป็น สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม วงเงิน 55,038.96 ล้านบาท แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อของ ธ.ก.ส. 44,437 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาด 10,601.96 ล้านบาท
นายชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกค่อนข้างดี โดยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 14,800-15,000 บาท ความชื้น 15% แต่เวลาชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้วขายเลย จะมีความชื้นอยู่ที่ 25% มีราคาแค่ตันละ 12,000 – 12,300 บาท ซึ่ง ราคาตลาด ณ ขณะนี้ รับซื้ออยู่ที่ตันละ 11,000 บาทเท่านั้น ถือว่าต่ำกว่าราคาที่เป็นธรรมที่ควรจะได้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงพาณิชย์ จึงได้จัดทำมาตรการมาแทรกแซงราคาด้วยการออก 2 มาตรการมาช่วยดูดซับปริมาณข้าว เพื่อดึงราคาข้าวให้ปรับเพิ่มขึ้นมา
สำหรับมาตรการที่แทรกแซงตลาด คือ สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โดยมีเป้าหมายดูดซับปริมาณข้าวออกสู่ตลาด 3 ล้านตัน ให้สถาบันเกษตรกร และ เกษตรกรที่มียุ้งฉางของตัวเองเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉาง 5 เดือน เพื่อรอการขาย ซึ่งรัฐบาลจะให้สินเชื่อ
โดยกำหนดปล่อยสินเชื่อในกลุ่มข้าวหอมมะลิ ตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,500 บาท ข้าวหอมมะลิปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 9,000 บาท ข้าวเหนียว ตันละ 10,000 บาทพร้อมทั้งช่วยค่าฝากอีก ตันละ 1,500 บาท (สหกรณ์รับตันละ 1,000 บาท+เกษตรกรรับตันละ 500 บาท) มีวงเงินสินเชื่อ 34,437 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาด 10,120.71 ล้านบาทกำหนดเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. 2566 ถึง 29 ก.พ. 2567
และสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มมีเป้าหมาย 1 ล้านตัน โดยให้สถาบันเกษตรกรรวบรวม รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา มีวงเงินกู้ 10,000 ล้านบาท และวงเงินชดเชยดอกเบี้ย 481.25 ล้านบาท
โดยจะให้สหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 1% และ รัฐช่วยดอกเบี้ย 3.85% ระยะเวลา 15 เดือน ส่วนการชดเชยดอกเบี้ย ธ.ก.ส. 4.85% นั้น รัฐบาลจะช่วยรับภาระดอกเบี้ย 3.85% ส่วนสถาบันเกษตรกร รับภาระ 1% กำหนดเริ่ม 1 ต.ค. 2566 ถึง 30 ก.ย.2567
นายชัยกล่าวอีกว่า มาตรการนี้จะให้สถาบันเกษตรกรเข้าไปซื้อแข่งและแทรกแซงตลาด โดยซื้อในราคานำร่องข้าวเปลือกหอมมะลิ ในความชื้น 25% ราคาตันละ 12,200 บาท เมื่อขายได้แล้วกำไรจะแบ่งชาวนาตันละ 300 บาท ซึ่งจะทำให้ชาวนาได้รับเงินรวมตันละ 12,500 บาท ซึ่งจะดีกว่าเดิมหากไม่ไปแทรกแซงเพราะจะทำให้ชาวนาได้เงินเพิ่มจากราคาตลาด อีก 1,500 บาท
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการชะลอข้าวออกสู่ตลาดครั้งนี้ เบื้องต้นในฤกาลผลิต 2566/67 คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวออกสู่ตลาด 10 ล้านตัน ซึ่งการดูแลช่วยเหลือจะดำเนินการ ผ่านสหกรณ์และเกษตรที่มียุ้งฉาง และเกษตรกรโดยตรง คาดว่าจะดูดซับได้ 4 ล้านตัน ซึ่งจะมีผลกับราคาข้าวอย่างมีนัยสำคัญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
"สมคิด" เผย ครม.จ่อถกมาตรการดึงราคาข้าวช่วยชาวนา