วันนี้ (25 ต.ค.2566) ผ่านมาเกือบ 13 ปี ที่ครอบครัวของพลทหารวิเชียร เผือกสม สังกัด ร.151 พัน 3 นราธิวาส ต่อสู้เพื่อเอาผิด ร.ท.ภูริ เพิกโสภณ พร้อมพวกอีก 9 คน ในคดีรุมซ้อมทรมานและเสียชีวิต ในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี 2554
ซึ่งวันนี้ ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ปัตตานี ได้นัดอ่านคำพิพากษา หลังเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมปีนี้ ศาลได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปโดยระบุว่า มีปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ประกอบกับศาลมีคดีต้องพิจารณาเป็นจำนวนมาก จึงไม่สามารถทำคำพิพากษาให้แล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตามช่วงเช้าวันนี้ มีตัวแทนองค์กรสิทธิมนุษยชน และครอบครัวของพลทหารวิเชียรมารอฟังคำตัดสิน โดยระบุว่า อยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง ในการลุกขึ้นสู่เพื่อสิทธิมนุษยชน
การต่อสู้ในคดีนี้เกิดขึ้น หลังพลทหารวิเชียร ซึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาโท คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้สมัครเกณฑ์ทหาร แต่เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2554 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตต่อมา
สภาพศพคล้ายถูกกระแทกกับของแข็งจนฟันหักและซี่โครงเดาะ และแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจาก ไตวายเฉียบพลัน จากกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง สร้างความกังขาให้ครอบครัวอย่างมาก เพราะร่างกายของพลทหารวิเชียร มีบาดแผลหลายจุด ความบอบช้ำตามร่างกาย
ทำให้ น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวได้เดินสายเข้ายื่นหนังสือให้หน่วยงานต่าง ๆ โดยในระหว่างนั้นก็ถูกดำเนินคดีจากนายทหารคู่กรณีฟ้องร้อง ข้อหาหมิ่นประมาท และกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนจะถูกยกฟ้องในเวลาต่อมา
โดย น.ส.นริศราวัลถ์ ยังเดินหน้าสู้ต่อทั้งทางแพ่งและอาญา โดยทางแพ่งที่ได้ยื่นฟ้อง กระทรวงกลาโหม กองทัพบก และ สำนักนายกรัฐมนตรี ศาลพิพากษาเมื่อปี 2557 ให้กองทัพบกจ่ายค่าสินไหมทดแทนทางละเมิดแก่ครอบครัว ประมาณ 7 ล้านบาท
ส่วนในคดีอาญา หลังการต่อสู้มานานพนักงานอัยการศาลทหาร ก็เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทหารทั้ง 10 นาย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา และศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ประทับรับฟ้อง เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2564
ระหว่างการพิจารณาของศาล ครอบครัวจึงได้ทำหนังสือและเอกสารสำนวนคดีความไปยังศาลเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่า ความผิดฐานร่วมกันฆ่าโดยมิได้เจตนามีโทษสถานเบา จึงขอให้พิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 และ 83 ร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ที่มีโทษสถานหนักกว่า วันนี้ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษา
ทั้งนี้ระเบียบวิธีพิจารณาของศาลทหารวันนี้ ถือเป็นที่สิ้นสุด เนื่องจากศาลทหารจะพิจารณาที่ชั้นเดียว และจะไม่สามารถอุทธรณ์หรือฎีกาได้ การพิจารณาคดีในครั้งนี้จึงมีความสำคัญยิ่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง