วันนี้ (13 ต.ค.2566) แรงงานไทยในอิสราเอลเดินทางกลับประเทศไทยทั้งหมด 57 คน ด้วยสายการบินอิสราเอล แอร์ไลนส์ เที่ยวบิน LY085 ซึ่งออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ เวลา 04.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น และถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 17.15 น. โดยมีครอบครัวมารอรับ
สำหรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาในวันนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้จัดรถโดยสารรับ-ส่งกลับไปยังภูมิลำเนา แต่ได้จัดให้บริการสำหรับแรงงานที่มีอาการป่วย หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สงคราม โดยจะส่งตัว ไปยังสถาบันบำราศนราดูร เพื่อรักการรักษา
ขณะที่นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า กลุ่มแรงงานที่กลับมาในเที่ยวบินนี้ มี 19 คนที่ได้รับการช่วยเหลือค่าตั๋วโดยสารจากรัฐบาล ส่วนที่เหลือซื้อตั๋วโดยสารด้วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเช่นเดียวกัน โดยให้แรงงานเก็บใบเสร็จค่าตั๋วโดยสาร หรือหลักฐานการจ่ายเงิน ไว้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นรับเงินคืนตามราคาจริง ซึ่งรวมถึงกลุ่มแรกที่กลับมาเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ด้วย
แรงงานไทยกลุ่มที่ 2 กลับจากอิสราเอล
แรงงานไทยสะท้อนอยู่อิสราเอลมีความเสี่ยง
นายบุญชัย แซ่ย่าง หนึ่งในแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล เปิดเผยว่า เดินทางไปทำงานเกษตรที่อิสราเอลได้ประมาณ 1 ปี 10 เดือน ตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่ พร้อมเล่าทั้งน้ำตาถึงเหตุการณ์สู้รบในอิสราเอลว่า คู่เขยที่เดินทางไปทำงานด้วยกันถูกยิงเสียชีวิต ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์อัตลักษณ์และรอนำร่างกลับไทย พร้อมทั้งร้องขอให้ทางการไทยช่วยเหลือหรือชดเชยให้กับผู้เสียชีวิตด้วย
คู่เขยที่ไปด้วยกันถูกยิง เสียใจ อยากให้เขากลับมาด้วย แต่มาไม่ได้ เอาชีวิตไปทิ้งที่โน่นเพื่อครอบครัว ถ้าไม่จน ไม่มีใครอยากไป
ส่วนการเดินทางกลับไทยครั้งนี้ได้ซื้อตั๋วโดยสารกลับมาเอง เพราะมีคนต้องการเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก กลัวว่าจะต้องรอนาน จึงตัดสินใจซื้อตั๋วเอง รวมค่าใช้จ่ายกว่า 50,000 บาทและจะเดินทางกลับ จ.เชียงราย ในวันนี้ (13 ต.ค.)
แรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล
นายบุญชัย กล่าวอีกว่า ที่แคมป์คนงานยังมีแรงงานไทยอีก 7 คนยังไม่เดินทางกลับ เพราะบางคนมีภาระเยอะ มีหนี้สินที่ยังต้องทำงานชดใช้ ขณะเดียวกันก็รอดูสถานการณ์ หากเหตุการณ์สงบพวกเขาก็จะทำงานต่อ ส่วนตนเองกลับมาเมืองไทยก็รู้สึกอุ่นใจและไม่ขอกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก เพราะไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง
พอแล้ว มาถึงเมืองไทยก็อุ่นใจ อยู่ที่โน้นทุกวินาทีคือความเสี่ยง
ขณะที่นายอานนท์ โพธิ์ศรี แรงงานไทยอีกคน เปิดเผยว่า เพิ่งเดินทางไปทำงานได้ 8-9 เดือน แคมป์ที่พักเป็นพื้นที่สีแดง อยู่ห่างจากเขตปาเลสไตน์ ประมาณ 80 กิโลเมตร วันเกิดเหตุโจมตีต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดและติดอยู่ในพื้นที่ 3-4 วัน ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือจากทหารอิสราเอลทั้งเสื้อผ้าและอาหาร
เมื่อสถานการณ์ไม่ดีขึ้น จึงโทรศัพท์หาสถานทูตขอความช่วยเหลือและได้กลับถึงเมืองไทยก็รู้สึกสบายใจขึ้น ซึ่่งในอนาคตหากเหตุการณ์สงบแล้วแลนายจ้างเรียกตัวก็จะกลับไปทำงานอีก เพราะค่าแรงค่อนข้างดี เฉลี่ยเดือนละ 50,000-60,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ พบทูตอิสราเอล ประสานเร่งช่วยเหลือคนไทย
กต.ตั้งเป้า "อพยพคนไทย" ออกจากอิสราเอลวันละ 400 คน