วันนี้ (11 ต.ค.2566) ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวระหว่างการประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟ ว่า แม้จะเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าเหตุรุนแรงในตะวันออกกลางจะกระทบเศรษฐกิจโดยรวมขนาดไหน แต่หากความขัดแย้งยืดเยื้อ ต้นทุนราคาน้ำมันจะพุ่งสูงถึงร้อยละ 10 กระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจโลกประมาณร้อยละ 0.15 และทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.4
นักวิเคราะห์ของไอเอ็มเอฟ ประเมินว่า การสู้รบที่อาจขยายความขัดแย้งระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกออกไปอีก กระทบต่อการค้าในตะวันออกกลาง ทำให้ต้นทุนด้านน้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น และซ้ำเติมสถานการณ์ราคาน้ำมันที่อยู่ในช่วงขาขึ้นเพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนด้วย
ส่วนเศรษฐกิจโลกปี 2566 ยังอ่อนแอ แต่คงประมาณการเติบโตไว้ที่ร้อยละ 3 และจะขยายตัวแบบชะลอลงในปี 2567 ที่ร้อยละ 2.9 ขณะที่ภาคเอกชนไทยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ประเทศท่ามกลางปัญหาที่รุมเร้า
ภาคเอกชนมองว่า ประชาชนยังเผชิญรายได้น้อย ราคาสินค้าในประเทศยังแพง และผู้ประกอบการต้องต่อสู้กับสินค้าจากประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชียทะลักเข้ามา ซึ่งมีราคาถูกกว่า แม้รัฐบาลมีมาตรการควบคุมราคาพลังงานและสินค้าก็อาจจะบรรเทาค่าครองชีพได้บ้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราคาน้ำมันดิบเดือนก.ย.ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน
"สงครามอิสราเอล" ส่งผลตลาดลงทุน จับตาราคาน้ำมัน-ทองคำ
กต.เผย "แรงงานไทย" เสียชีวิตอีก 2 คน - ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่ม 3 คน