ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

บิ๊กเอกชนห่วงบาทอ่อนทำไทยขาดดุล

เศรษฐกิจ
4 ต.ค. 66
16:58
412
Logo Thai PBS
บิ๊กเอกชนห่วงบาทอ่อนทำไทยขาดดุล
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ปธ.หอการค้าชี้ ปัจจัยลบรุมเร้า ฉุดเงินบาทไทยทรุดต่อเนื่อง ซีไอเอ็มบีไทย ห่วงนโยบายการคลังใช้เงินดิจิทัลสูง ดันหนี้สาธารณะพุ่ง

วันนี้(4 ต.ค.2566) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธาน กกร.เปิดเผยว่า เงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องในเวลานี้ มาจากปัจจัยภายในและนอกประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงที่นานกว่าที่คาด ประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่แผ่วลงในช่วงนี้ส่งผลค่าเงินหยวนและค่าเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียอ่อนค่าต่อเนื่อง

รวมถึงปัจจัยภายในประเทศจากความกังวลในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และมีการขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น ทั้งนี้แม้ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าค่อนข้างเร็วในเดือนกันยายน แต่โดยรวมยังสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคในช่วง 9 เดือนแรกของปี

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เงินบาทอ่อนค่าราว 2% เทียบดอลลาร์สหรัฐในช่วงไม่กี่วันของเดือนตุลาคมนี้ หรืออ่อนค่าราว 6.8% นับจากปลายปีก่อน

โดยที่จริงแล้ว เงินบาทเริ่มอ่อนค่าแรงในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่อ่อนค่าถึง 3.9% ซึ่งเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่าแรงที่สุดในภูมิภาค แซงหน้าแม้แต่เงินเยนที่อ่อนค่าเพียง 2.6% ในเดือนกันยายนหลังเริ่มมีเสถียรภาพบ้างหลังอ่อนค่าแรงนับจากต้นปี หรือราว 12.5% จนเฉียดระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ในปีนี้ เงินบาทอ่อนค่ามากที่สุดเป็นอันดับสองในภูมิภาค เป็นรองเพียงเงินเยน และอ่อนมากกว่าเงินริงกิตเพียงเล็กน้อย แล้วทิศทางเงินบาทจะเป็นเช่นไรในช่วงไตรมาส4นี้

    ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

จับตา คลังใช้เงิน "ออมสิน" แจก "ดิจิทัลวอลเล็ต"

ค่าเงินบาทวันนี้ 3 ต.ค.66 "อ่อนค่า" ที่ระดับ 37.07 บาทต่อดอลลาร์

"จุลพันธ์" ยันแจกเงินดิจิทัลใช้บล็อกเชน-จ่อขยายรัศมีใช้เงินเกิน 4 กม.

ฟันธงปลายปีพลิกแตะระดับ 35.00บาท

ขณะที่นโยบายการคลังของไทยเริ่มมีความชัดเจนในการหาแหล่งที่มาของเงินและสร้างความมั่นใจในการทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีในปีหน้าจนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยน่าจะเห็นเงินบาทเคลื่อนไหวได้ในระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปีนี้

ส่องปัจจัยตัวการทำบาทอ่อน

นอกจากนี้ซีไอเอ็มบีไทยยังระบุอีกว่า ปัจจัยที่มีผลให้เงินบาทอ่อนส่วนสำคัญประการหนึ่งก็มาจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเร็วในปีนี้ ซึ่งกระทบเงินทุนเคลื่อนย้ายในตลาดเกิดใหม่ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐยังมีความน่าสนใจเพราะถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะสำหรับการชำระหนี้ระหว่างประเทศ และหากต้นทุนในการชำระหนี้ หรืออัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูงหรือเพิ่มขึ้น ก็มีผลให้นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์ในรูปดอลลาร์สหรัฐไว้

 แบงก์ชาติก็เพิ่งขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปสู่ระดับ 2.50% เพื่อดึงเงินต่างชาติให้ลงทุนในประเทศ ทั้งๆ ที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เศรษฐกิจเสี่ยงขยายตัวช้ากว่าคาด แต่ที่ตลาดกังวล น่าจะเป็นเรื่องความชัดเจนในมาตรการทางการคลัง หลังมีแผนใช้งบประมาณมากขึ้นโดยเฉพาะโครงการเงินบาทดิจิทัล มีทั้งกังวลภาระทางการคลังระยะยาว หนี้สาธารณะที่กำลังเพิ่มขึ้น

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง