วันนี้ (17 ก.ย.2566) เวลา 16.10 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงข่าวความคืบหน้าคดี "กำนันนก" โดยระบุว่า ขณะนี้ได้โอนสำนวนคดีทุจริตละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ก๊วนพลเรือนและเจ้าพนักงานในงานเลี้ยงบ้านกำนันนกให้กองบังคับการกองปราบปรามแล้ว พรุ่งนี้รอฟังจากกองปราบฯ ชัด ฟันผิดกี่นาย ส่วนทีมตนเองร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 7 ลุยต่อเรื่องฮั้วประมูล
โอนย้ายคดีให้กองปราบฯ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดแล้ว ยืนยันว่าคำให้การของตำรวจ และผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้การขัดแย้งไม่ตรงกับภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด และนำมาสู่การสอบสวน
โดยวันนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้ลงนามคำสั่ง ให้โอนสำนวนคดีไปให้กองบังคับการปราบราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และ ดำเนินคดีกับตำรวจที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตาม ป.วิอาญามาตรา 157
อ่าน : "บิ๊กก้อง" มั่นใจหลักฐานเอาผิด "กำนันนก" โทษประหารชีวิต
แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการสืบสวนเรื่องการทุจริตและฮั้วประมูล ตนเองจะดำเนินการกับทางคณะพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สตง., ปปง., ป.ป.ช., กรมสรรพากร รวมถึง กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตรวจสอบเรื่องการทุจริต การเลี่ยงภาษีต่างๆ โดยจะมีการประชุมร่วมกันที่ภาค7 เช่นเดิม
ส่วนคดีการทุจริตและ ม.157 เป็นอำนาจหน้าที่ของกองปราบปราม ดังนั้น หากสื่อมวลชนสงสัยในเรื่องการแจ้งข้อหาหรือมีประเด็นสอบถามในเรื่องดังกล่าวขอให้ฟังการแถลงกับทางกองปราบฯ
วันนี้การจับกุมกำนันนกอย่างเดียวเป็นแค่ปลายเหตุ ถ้าจะทำให้สิ้นซาก ต้องขยายไปถึงกิจการที่ร่ำรวยผิดปกติ เส้นทางการเงินต่างๆ โอนไปไหนบ้าง ทำไมได้โครงการรัฐที่มีราคาสูงกว่า 7,000 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า ทางกองปราบฯ ได้รับมอบสำนวนการสอบสวน เบื้องต้นจากการตรวจสอบพยานหลักฐานและวงจรปิด พอทราบหมดแล้วว่าตำรวจแต่ละนายมีพฤติกรรมอย่างไร
มีตำรวจที่เข้าข่ายความผิดจำนวน 13-14 นาย โดยทางกองปราบฯ จะประชุมพิจารณาร่วมกันอย่างละเอียดก่อนพิจารณาแจ้งข้อหา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม
ส่วนกรณีของ ผกก.สน.พญาไท ในการสอบปากคำได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่การจะเข้าไปช่วยคนเจ็บหรือไม่ เป็นประเด็นปลีกย่อยที่จะต้องพิจารณา คาดว่าจะมีความชัดเจนในการประชุมพรุ่งนี้ (18 ก.ย) การไม่เปิดข้อมูลในกล้องวงจรปิดให้สื่อมวลชนดู ไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือ ผกก.สน.พญาไท และ รอง ผบ.ตร. ย้ำอีกว่า
ผกก.สน.พญาไท ให้การไม่ตรงกับกล้องวงจรปิด
ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในกล้อง
ในการให้การทั้งหมดมันขัดแย้งกับกล้องวงจรปิด ที่บอกช่วยก็ไม่ได้ช่วย เราก็รวมรวบทั้งหมดและส่งให้กองปราบฯ ไป หลังจากนี้ จะแจ้งไม่แจ้งความผิด ก็เป็นส่วนของกองปราบฯ ที่จะดำเนินการต่อไป ตอนนี้ตนเองไม่มีอำนาจที่จะไปแจ้งความผิดต่อผู้กระทำผิด
อ่าน : "ผกก.สน.พญาไท" เล่านาทีหน่อง ลั่นไก "ยิงสารวัตรแบงค์"
7 ผู้ต้องฆ่าคดีฆ่า - 6 นายตำรวจ 157
ในส่วนของคดีฆ่าหรือเจตนาฆ่า สารวัตรศิวกร สายบัว มีผู้เกี่ยวข้อง 7 คน คือ หน่อง มือยิง ถูกข้อหาฆ่าผู้อื่น, กำนันนกคนสั่งการ และ ผู้เกี่ยวข้องอีก 5 คนให้การช่วยเหลือและทำลายหลักฐานได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีหมดแล้ว
ด้านคดีทุจริตปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มีผู้ต้องหา 6 คน ต่อไปเป็นหน้าที่ของกองปราบฯ ที่ต้องสอบว่าผู้ใดให้การเท็จหรือไม่ โดย พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า จะเป็นการให้การเท็จหรือไม่ ต้องพิจารณาข้อมูลเดิมว่าตอบครั้งแรกตอบอย่างไร
ถ้าครั้งแรกให้การไม่ครบถ้วน ครั้งนี้ให้เพิ่ม ถือว่าไม่เท็จ
แต่ถ้าครั้งแรกกับครั้งที่ 2 ให้การความหมายไม่เหมือนกัน ถือว่าเท็จ
อ่าน : กราวรูด! ตร.ระดับสูงเมินช่วย "สารวัตรแบงค์" โดนข้อหาให้การเท็จ-ม.157
"บิ๊กโจ๊ก" ตำหนิคนแต่งตั้ง กำนันนก ร่วม กต.ตร.
ส่วนกรณี ผวจ.นครปฐม มีคำสั่งปลด กำนันนก จากคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตารวจ (กต.ตร.) ในช่วงบ่ายที่ผ่านมานั้น ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ตำหนิการทำงานของคณะทำงาน กต.ตร.จ.นครปฐม เนื่องจาก กต.ตร. ถือเป็นตัวแทนภาคประชาชนที่เป็นเครื่องมือสะท้อนการทำงานของตำรวจในพื้นที่ ที่คัดคนไม่ดีเข้ามาในองค์กร เป็นสิ่งที่ต้องตำหนิ และขอให้ทุกจังหวัดตื่นตัว ไม่เอาผู้มีอิทธิพลเข้ามาอยู่ใน กต.ตร.อีกเด็ดขาด
และขณะนี้ก็ได้เซ็นคำสั่งโยกย้ายให้ไปช่วยราชการที่อื่นแล้ว เพราะเชื่อว่าผู้ที่เซ็นให้กำนันนกเข้ามา ต้องรู้จักกันดี มีความเกี่ยวข้อง ต่อไปต้องเรียกมาสอบอีก
"บิ๊กโจ๊ก" เชื่อว่า กำนันนก อาจจะไม่มีความรู้มากมายเรื่องกล้อง คิดแค่ว่าเดินไปดึงสายออกก็จบ แต่ข้อมูลจากกล้องตัวอื่นๆ ในบ้าน ทำให้เห็นว่าจังหวะนั้น กำนันนกเป็นผู้ปิดกล้องเองจริง แล้วในบริเวณนั้นก็ไม่มีคนอื่นอยู่รอบข้าง
เมื่อเรียกให้ช่างติดกล้องมาให้ข้อมูลเพิ่ม ก็สามารถยืนยันได้ว่า กำนันนกเป็นผู้ดึงสายกล้องวงจรปิดออกเอง
อ่าน : ปลด "กำนันนก" พ้น กต.ตร.-ดีเอสไอเรียก 58 บริษัทสอบฮั้วประมูล
ขอตำรวจช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นกลับมา
รอง ผบ.ตร. ยังบอกว่า ได้เห็นผลโพลของนิด้าโพลแล้ว ก็ยอมรับว่าความเชื่อมั่นต่อองค์กร และความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชนนั้นย่อมลดลง เพราะทั้งปีก็มีแต่ข่าวตำรวจเชิงลบทั้งนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากขอให้เข้าใจว่า องคืกรตำรวจก็ยังต้องอยู่เืพ่อรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน
วันนี้ต้องแยก ตำรวจไหนดีหรือไม่ดี ตำรวจไม่ดีก็ต้องเชือดให้หมด ตำรวจดีก็ต้องส่งเสริม วันนี้เราไม่ได้แกล้งใคร ตำรวจคนไหนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ดำนินคดีไป ส่วนใครที่ให้ความช่วยเหลือผู้เจ็บ ก็ต้องให้ความยุติธรรมแก่เขา
วันนี้ ตร ทั้งประเทศต้องช่วยกัน ไม่มีการแก้ตัว ต้องทำงานโปร่งใส่ และแน่วแน่แก้ไขในสิ่งที่ผิด ทั้งระดับ ผู้บังคับการ ผู้การ ผู้กำกับ ต้องเข้มแข็ง ถ้าทำอย่างโปร่งใสมีความมุ่งมั่น เดี๋ยวศรัทธาจะกลับมาเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นรต.55 ร่วมส่ง "ผกก.เบิ้ม" ครั้งสุดท้าย - รองฯ ต่อศักดิ์ เป็นประธาน
ปลด “กำนันนก” พ้น กต.ตร.-ดีเอสไอเรียก 58 บริษัทสอบฮั้วประมูล