วันนี้ (15 ก.ย.2566) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท. ผบก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่สังกัดกองบังคับการตํารวจทางหลวงหลายสิบนายเดินทางมายังที่บ้านของกํานันนก ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกยิงเสียชีวิต และ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผู้กำกับเบิ้ม ผกก.2 บก.ทล.
โดยได้นิมนต์พระสงฆ์เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ และเรียกขวัญกำลังใจให้กับตำรวจทางหลวงที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยรถที่นำมาจอดเชิญดวงวิญญาณในวันนี้ มีรถของตำรวจทั้งสอง มาจอดอยู่ด้วย จากนั้นได้เปิดสัญญาณไฟสายตรวจของรถและยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 30 วินาที
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า การเชิญดวงวิญญาณสารวัตรศิวกร และ ผู้กำกับเบิ้ม ในวันนี้ เพราะเชื่อว่าวิญญาณของตำรวจทั้ง 2 นายอยู่ที่นี่ ถือว่าจุดนี้คือต้นเหตุที่ทำให้ทั้ง 2 เสียชีวิต ให้กลับไปอยู่ในภพภูมิที่ดี
สำหรับการเสียชีวิตของสารวัตรศิวกรในครั้งนี้เป็นการทำงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเต็มที่ของหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนผู้กำกับเบิ้มที่ได้เรียกสารวัตรศิวกรมาในวันนั้น ก็ได้รับผิดชอบไปแล้วด้วยชีวิต เพราะโทษว่าตัวเองเป็นคนผิดที่ทำให้สารวัตรศิวกร ถูกยิง ซึ่งถือว่าตำรวจทั้ง 2 ได้มีความรับผิดชอบถึงที่สุดแล้ว และจะจดจำวีรกรรมทั้งไว้ในหัวใจ เป็นแบบอย่างให้กับตำรวจทางหลวงทุกคน ส่วนขวัญกำลังใจของตำรวจทางหลวงยอมรับว่าหดหู่ในเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะตำรวจทั้งสองเป็นที่รักของเพื่อนพี่น้องวงการตำรวจ แต่ก็เชื่อว่าอีกไม่นานขวัญกำลังใจจะกลับมาดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเห็นภาพจากวงจรปิดในที่เกิดเหตุหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่าไม่อยากดูเพราะเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ ขอให้ทางชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดำเนินการ ส่วนตัวเองรู้รายละเอียดแล้วทุกอย่าง แต่ไม่สามารถพูดได้ ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุแบ่งแยกชุดตำรวจที่เข้าร่วมงานเป็น สามกลุ่ม กลุ่มที่ช่วยเหลือคนเจ็บ กลุ่มที่หนีเอาตัวรอด และ กลุ่มที่ช่วยเหลือกำนันโดยเฉพาะกลุ่มนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติเผยว่าว่าของพวกเขาได้เปลี่ยนสีไปตั้งแต่วินาทีที่ข่วยเหลือคนกระทำผิด ก็ไม่สมควรจะเป็นตำรวจอีกต่อไป
ส่วนกลุ่มที่ช่วยเหลือยืนยันว่าเลือดของสารวัตรศิวกรที่ติดเสื้อตำรวจจำนวน 8-9 นาย ก็สามารถบ่งบอกได้ชัดเจนแล้วว่าใครเข้าช่วยเหลือบ้าง ส่วนที่กระแสถูกเผยแพร่ออกไปว่าขณะเกิดเหตุตำรวจแตกกระเจิง ต่างเอาตัวรอดนั้น ไม่ยิงสวน ก็ต้องยอมรับว่าตำรวจก็เหมือนคนทั่วไป เมื่อมีภัยเข้ามาถึงตัวก็ต้องหาที่ตั้งหลักก่อน เมื่อตั้งสติได้ก็ต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไรต่อไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และวุฒิภาวะของแต่ละคน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยอีกว่าฟางเส้นสุดท้ายที่ก่อเหตุนั้นเป็นคำพูดของสารวัตรศิวกร ที่พูดกับกำนันนกว่า “กำนันสู้ผมไม่ได้” หลังจากการดวลเหล้า อาจจะเป็นชนวนเหตุ ให้กำนันนกย้ายไปนั่งที่โต๊ะจีนอีกฝั่ง จากนั้น 10 นาที จึงเกิดเหตุยิงขึ้น
โดยทันทีหลังให้สัมภาษณ์เสร็จ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยกมือขึ้นพนม แล้วบอกกับสื่อว่าได้พูดเชิญให้ตำรวจทั้งสองขึ้นรถ "พี่จะพากลับบ้าน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เตรียมขอฝากขัง รปภ.ถือปืนคืนงานเลี้ยงบ้าน "กำนันนก"
ม้วนเดียวจบ ! รื้อเส้นทางธุรกิจพันล้าน “กำนันนก”
"บิ๊กโจ๊ก" เปิดวงจรปิดบ้าน "กำนันนก" พบทุกคนให้การไม่ตรงข้อเท็จจริง