แม้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ลงไปสางคดี “สารวัตรแบงค์” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูก “หน่อง ท่าผา” เสียชีวิตในงานเลี้ยงที่บ้าน ประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” จะระบุว่า นครปฐม ไม่มีซุ้มมือปืนแล้วก็ตาม
แต่ปฏิเสธไม่ได้ยังมีมือปืนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปซุกตัวอยู่ใต้ปีกนักการเมืองและอาศัยบารมีของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เพิ่งพิง รับใช้ และขยายอิทธิพลส่วนตัวทำธุรกิจสีเทา หรือดูแลธุรกิจสีเทาให้ และเหตุใดคนใหญ่โต “บ้านใหญ่” หรือผู้กว้างขวางมีอิทธิพลในพื้นที่ยังต้องใช้บริการคนเหล่านี้
อ่านข่าว : เปิดอาณาจักร "กำนันนก" ทายาทรับเหมารายใหญ่นครปฐม
อวสาน “ซุ้มมือปืน” บ้านใหญ่?
ในอดีตซุ้มมือปืนขึ้นชื่อที่สุด คงหนีไม่พ้น ซุ้มมือปืนเมืองเพชร รองลงมาในพื้นที่ภาคตะวันออก คือ ซุ้มเมืองชล ส่วนพื้นที่ภาคใต้ มีซุ้มนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ภาคเหนือ นครสวรรค์ พิจิตร แต่ปัจจุบัน ซุ้มมือปืน ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว บางรายวางมือลาขาดจากวงการ ไปทำอาชีพสุจริต หลายคนถูกปลิดชีพโดยฝีมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางรายขัดผลประโยชน์ ฆ่ากันเอง
“เสี่ยแป๋ง” ปิยะ อังกินันท์ เคยบอกไว้ก่อนจะเสียชีวิต เมื่อ 4 ปีก่อนว่า ซุ้มมือปืนเมืองเพชร ไม่มีแล้ว
แต่ข้อเท็จจริงปัจจุบันคือ ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี อ.บ้านลาด และ อ.ท่ายาง อาจจะยังมีมือสังหารรับจ้างอยู่ โดยพวกที่ยังเหลืออาจจะไปจะอาศัยตามซุ้มของ “นักการเมือง” หรือนักธุรกิจ หรือผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ในฐานะพลขับ ผู้คุ้มกันเดินตามนักการเมือง ในขณะที่มือปืนบางคน อยากสร้างบารมี ต้องไปจัดการคนเพื่อเพิ่มบารมีในซุ้ม
ข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายรายสำคัญ (ศปอร.ตร) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ปัจจุบันซุ้มมือปืน ยังพบมากในพื้นที่ภาคใต้ รองลงมาคือภาคกลาง เหนือ และอีสานตามลำดับ ซึ่งต่างจากแต่ก่อนที่พบมากในภาคเหนือและภาคตะวันออก แต่เจ้าของซุ้มยังคงเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่ไม่ใช่เฉพาะคนมีสี
แต่ขยายวงไปทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและนักธุรกิจ ที่ต้องการเลี้ยงมือปืนไว้เพื่อประดับบารมี และคอยช่วยเหลืองานหรือธุรกิจผิดกฎหมาย ซุ้มมือปืนแต่ละแห่ง ส่วนใหญ่พบว่าจะเลี้ยงมือปืนในสังกัด ตั้งแต่ 5 - 10 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า มีข้อมูลกลุ่มผู้มีอิทธิพล และซุ้มมือปืนอยู่แล้ว หากคดีเกิดขึ้นในพื้นที่ใด และต้องจับตาเป็นพิเศษจะมีบัญชีและฐานข้อมูลของผู้มีอิทธิพลและมือปืนว่า อยู่ในเครือข่ายหรือซุ้มใด หรือพบว่ามีความเคลื่อนไหวเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญอะไร สามารถตรวจสอบได้ทันที
“วางปืน”เปลี่ยนอาชีพ “ทำสวนยาง”
ในปี 2560 หลังจากกองบัญชาการตำรวจกองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการกวาดล้างและขึ้นบัญชีมือปืนรับจ้างที่ไม่มีซุ้มสังกัด ซึ่งก่อเหตุสะเทือนขวัญ เช่น เสือเต้า มือปืนอันดับ 1 ที่ถูกตำรวจภาค 9 ปลิดชีพ หลังก่อเหตุยิงถล่มกำนัน ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา จนเสียชีวิต เมื่อหลายปีที่แล้ว
หรือ ต๋อง วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจต้องการตัว พบข้อมูลว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือเป็นลูกน้องของนักการเมือง แต่เป็นกลุ่มมือปืนรับจ้าง ถ้าหากใครมีเงินจ้าง รับงานหมด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมือปีนอาชีพจริงนั้น บางคนได้เปลี่ยนอาชีพไปแล้ว แต่มีมือปืนโนเนมหน้าใหม่ไม่ใช่ระดับแม่นปืน แต่เป็นพวกขี้ยา รับจ้างทวงหนี้ ร้อนเงิน และใจถึง
อดีตมือปืนรายหนึ่ง เล่าว่า ซุ้มมือปืนยังคงมีอยู่ในหลายพื้นที่ และส่วนใหญ่อยู่กับนักการเมืองระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ในแต่ละซุ้มจะมีมือปืนประมาณ 5 คน จำนวนนี้จะมีเครือข่ายและหน้าที่แตกต่างกันไป ในอดีตราคาค่าจ้างขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน เฉลี่ยอยู่ที่ 300,000-500,000 บาท
ปัจจุบันพวกมืออาชีพระดับพระกาฬ ไม่ตายก็ถูกตำรวจจับ พวกที่มีอายุมากๆ แล้วก็จะเปลี่ยนอาชีพไปทำธุรกิจสีเทา เช่น ทำบ่อนไพ่ บ่อนไก่ชน หวยใต้ดิน และทำสวนยาง พวกนี้จะทำธุรกิจแบบพนันออนไลน์ไม่เป็น ส่วนพวกมือปืนที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่เป็นพวกติดยาเสพติด อยู่ในวงการยาเสพติด รับงานครั้งละ 30,000-40,000 บาท
ผู้วางมือจากวงการ ยังบอกอีกว่า แม้จะเลิกทำอาชีพดังกล่าวแล้ว แต่ทุกคนก็ยังไว้ลายตัวเอง ระมัดระวังตัว เวลาเข้าไปทำสวนก็ต้องดูซ้ายขวาให้ดี หูไว-ตาไว และอยากอยู่อย่างสงบกับครอบครัวไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลหรือใครอีก
สำหรับผู้ยังวนเวียนอยู่ในวงการนั้น ไม่มีใครรับประกันได้ว่า แม้จะเลิกและเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นแล้ว ก็ลึกๆแล้วจะหวนกลับเข้าสู่วงจรโหดอีกหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :