เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2566 เฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa โพสต์ความคืบหน้า น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา และคณะสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ จากสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง เดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เยี่ยมชมศูนย์ Elephant orphanage ที่ Pinnawala โรงพยาบาลช้างแห่งเดียวในศรีลังกา ได้พูดคุยกับบุคลากรในโรงพยาบาล รวมถึงสนับสนุนอุปกรณ์ที่ทางโรงพยาบาลยังขาดแคลน
นอกจากนั้นยังระบุว่า ความหวังที่จะนำช้างไทยทั้ง 2 เชือก คือ "พลายประตูผา" และ "พลายศรีณรงค์" กลับประเทศไทยนั้น เกินความสามารถของตนเองแล้ว สาเหตุเนื่องจาก "พลายประตูผา" ยังคงได้รับการดูแลที่ดี อาหารมีโภชนาการเหมาะสมสำหรับช้าง สุขภาพดี ขณะนี้อยู่ในช่วงปลายตกมัน หลังจากนั้นจะย้ายไปวัดพระเขี้ยวแก้ว
พลายประตูผา เฟซบุ๊ก : NuNa Silpa-archa
พร้อมขอให้ผู้ติดตามและหวังว่าจะได้ทั้ง 2 พลายกลับไทยนั้น เข้าใจและยอมรับว่า ไม่มีทางทำได้ แต่จะพยายามให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์การแพทย์ และ สนับสนุนการอบรมคนเลี้ยงช้าง แทน
เมื่อมาถึงศรีลังกา ได้ตรงไปศูนย์ Elephant orphanage ที่ Pinnawala และเป็นโรงพยาบาลช้างแห่งเดียวในศรีลังกา คุณหมอจากโรงพยาบาลนี้ เป็นผู้ที่ไปช่วยดูแลพ่อมุธุ ทำแผลให้ทุกวันช่วงมาฟื้นตัวที่สวนสัตว์รอกลับบ้าน…
โรงพยาบาลแห่งนี้ ดูแลรักษาช้างและสัตว์ต่างๆ รวมทั้งศรีณรงค์ (ยกเว้นช้างของเมืองแคนดี้ซึ่งคณะสัตวแพทย์ของมหาวิทยาลัยแคนดี้เป็นผู้ดูแล) ที่นี้ยังขาดแคลนอุปกรณ์ในการพยาบาลสัตว์อย่างมาก ซึ่งในวันที่ 4-10 กันยานี้ คณะหมอและเจ้าหน้าที่ของที่นี่จำนวน 4 ท่านจะไปดูงานที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ลำปาง ดูการดูแลช้างของหมอและควาญของเรา เพราะเมื่อกลับศรีลังกาเขาจะจัดการอบรมควาญคนเลี้ยงช้างของทางนี้เป็นชุดๆ ชุดละ 20 คน ครั้งละ 6 เดือนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
ในการนี้ ดิฉันจะสนับสนุนอุปกรณ์ที่ทางหมอของสถาบันคชบาลและหมอของเขาที่มาดูงานสรุปกันว่า ต้องการอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์อะไรบ้างที่จะช่วยการดูแลรักษาช้างไม่ว่าจะเป็นเครื่องเอ็กซเรย์ และอื่นๆ รวมทั้งเครื่องมือในการจัดคอร์สฝึกอบรมควาญของศรีลังกา
นี่คือสิ่งที่ดิฉันทำได้
ส่วนการจะเอาประตูผาและศรีณรงค์กลับไทยนั้น เกินความสามารถของดิฉัน
ตามคลิปที่โพสต์ ดิฉันได้ขอให้ คุณหมอทวีโภค หมอเหยี่ยว หมอนิล หมอวิศิษฏ์ ช่วยกรุณาให้ความเห็นจากการประเมินดูสภาพประตูผา
ขอให้ดูและฟังด้วยใจที่พยายามเข้าใจในสถานการณ์ความจริงทางนี้ด้วยค่ะ ข้อห่วงใยต่างๆและคำตอบมีเช่น
- อาหาร ประตูผากินใบเต่าร้างยักษ์ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับช้าง และตอนนี้อยู่ในช่วงปลายของการตกมัน ร่างกายประตูผาหมอบอกค่อนข้างอ้วน
- การผูกขา ผูก 2 ขา หน้า 1 หลัง 1 สามารถล้มตัวนอนบนกองอาหารได้
- ดูจากมูล สุขภาพดี
- สังเกตอาการ มีความไว้ใจควาญมาก
- ที่หมอแนะให้ปรับปรุงคือที่อยู่ให้ทำความสะอาดสม่ำเสมอ
- เมื่อพ้นช่วงตกมัน ก็จะไปอยู่ที่วัดพระเขี้ยวแก้ว
- เรื่องขบวนแห่ ความร้อน ไฟ ฟังจากในคลิปนะคะ ถามเขาทุกอย่าง
- จากการพูดคุยกับไวยากรณ์และอดีตคณบดีคณะสัตวแพทย์ ม.แคนดี้ ที่ดูแลช้าง ทราบได้เลยว่า เราไม่มีทางได้ประตูผา และศรีณรงค์ กลับ เขาไม่ได้พูดไม่ดี แต่เขาอธิบายความต่างๆ (ไม่สามารถเขียนได้หมด มันยาวมาก) แต่สำเหนียกได้ว่า เราคงเอากลับไม่ได้
- ทางที่ดีที่สุดคือ ดิฉันช่วยให้ทางนี้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องการ สนับสนุนการอบรมคนเลี้ยงช้าง (จัดคอร์สต่อเนื่อง คนที่อบรมแล้วก็ช่วยขยายผลต่อ) ให้มีความร่วมมือกันในการดูแลช้างระยะยาวระหว่างเราและเขา
สรุปคืออย่างนี้นะคะ อาจไม่ได้ดังใจบางท่าน ก็ขอให้เข้าใจว่า ดิฉันคือผู้มาทำจริง พร้อมคุณหมอ และทำดีที่สุดได้เพียงนี้ค่ะ หากท่านใดมีความสามารถทำได้ดีกว่านี้ ดิฉันยินดีและจะขอบคุณมากนะคะ
บ่ายนี้จะไปเยี่ยมศรีณรงค์ค่ะ
ทั้งหลายทั้งปวง ต้องขอขอบคุณท่านทูตพจน์ หาญพล และเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในศรีลังกา ที่กรุณาเป็นธุระประสาน นำพาให้เกิดการพบคุยเจรจา (ท่านทูตเกษียณสิ้นเดือนนี้)
เฟซบุ๊ก : NuNa Silpa-archa
เฟซบุ๊ก : NuNa Silpa-archa