วันนี้ (31 ส.ค.2566) นายณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกและแนวโน้มการส่งออกข้าวไทย ว่า ภาพรวมสถานการณ์ส่งออกข้าวในเดือน ม.ค.-ก.ค.2566 มีจำนวน 4.64 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.09 ล้านตัน โดยตลาดส่งออกหลักอยู่ที่อินโดนิเซีย อิรัก แอฟริกาใต้ สหรัฐฯ และจีน ชนิดข้าวที่ส่งออก ได้แก่ ข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ ข้าวนึ่ง ข้าวหอมไทย ข้าวเหนียวและข้าวกล้อง
ก่อนหน้านี้ กรมการค้าต่างประเทศไปเยือนประเทศผู้นำเข้าหลักของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งจากการหารือหลายประเทศมีความกังวล เพราะอินเดีย เมียนมา มีมาตรการห้ามส่งออก และล่าสุด อินเดียมีนโยบายเก็บภาษีส่งออกข้าวบาสมาติ ส่วนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย มีความเห็นว่าน่าจะมีการนำเข้าข้าวไทยมากขึ้น หลังไทยไม่ได้ส่งออกในตลาดเหล่านั้นมากกว่าเวียดนาม อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าไทยมีข้าวเพียงพอที่จะส่งออก
ขณะที่ปี 2566 มาเลเซีย นำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมาเลเซียลดการผลิตในประเทศ แม้ว่าในอดีตเวียดนามส่งออกไปมาเลเซียลำดับแรกและราคาถูกกว่าข้าวไทย แต่จากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้พบว่า ราคาข้าวเวียดนามแพงกว่าข้าวไทย ปัจจุบันชาวมาเลเซียนิยมข้าวพื้นนุ่มที่เป็นข้าวฤดูกาลใหม่มากขึ้น โดยไทยคาดว่าจะสามารถมีผลผลิตออกสู่ตลาดได้ภายใน 2-3 ปี
ส่วนญี่ปุ่นที่นำเข้าข้าวไทย ส่วนใหญ่ใช้ทำอาหารสัตว์ ไม่ใช่เพื่อการบริโภค แต่มีการนำเข้าต่อเนื่องโดยเฉพาะข้าวขาว ปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงประมาณปีละ 100,000 ตัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวมาเยือนญี่ปุ่นลดลง และญี่ปุ่นยังแสดงความกังวลว่าจะได้ข้าวล่าช้า
นายณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
นายณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลอินเดียต้องการเข้ามาบริหารจัดการควบคุมการค้าข้าวระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะในอดีตการส่งออกข้าวเสรีไม่มีการห้ามเก็บภาษี และวันนี้ต้องการมาบริหารจัดการควบคุม เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองในทางการเมืองระหว่างประเทศและด้านการทูต
แต่คาดว่าเป็นเพียงอำนาจการต่อรอง เพราะยังมีข้อยกเว้นการระงับการส่งออกข้าวที่รัฐบาลอินเดียกำหนดให้กรณีผู้ร้องขอซื้อข้าวอินเดียเพื่อความมั่นคงทางอาหาร สามารถเจรจาต่อรองกับอินเดียได้ เช่น สิงคโปร์ ภูฎาน โดยสิงคโปร์ขอให้รัฐบาลอินเดียส่งออกข้าว
สำหรับสาเหตุที่ข้าวเวียดนามราคาแพงกว่าข้าวจากไทย เนื่องจากเวียดนามมีการลดการเพาะปลูกและนำเข้าข้าวจากอินเดีย ทำให้สต็อกข้าวค่อนข้างต่ำ
นอกจากนี้ได้หารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะมีข่าวว่าฟิลิปปินส์สนใจทำความตกลงกับไทยในการส่งออกข้าว โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือน ก.ย.นี้ เพราะต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เพื่อขอนโยบาย ขณะที่การส่งออกข้าวยืนยันว่า ภายใต้สัญญาเดิมที่มีการประมูลจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 8 ล้านตัน ล่าสุดส่งออกไปแล้ว 4.6 ล้านตัน (ข้อมูลเดือน ก.ค.) จึงคาดว่าอีก 4 เดือนจะส่งมอบได้ตามเป้า
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวส่งออกเวลานี้ ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยข้าวขาวราคาอยู่ที่ 620 เหรียญสหรัฐต่อตันข้าวหอมมะลิราคา 868 เหรียญสหรัฐต่อตัน
อ่านข่าวอื่นๆ
ส.ผู้ส่งออกข้าวห่วง "เมียนมา" ระงับส่งออกข้าวทำราคาตลาดโลกผันผวน
คลังย้ำอีกรอบ! เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เหมาะสมช่วยลดค่าครองชีพ
เรื่องน่ารู้! "เครื่องหมายการค้า" เช็กขั้นตอนตรวจสอบไม่ให้ซ้ำคนอื่น