วันนี้ (5 ก.ค.2566) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) เป็นกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมแล้ว
โดยจะเป็นกรมที่รับผิดชอบภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของประเทศโดยตรง ทั้งการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ
รวมถึงการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป้าหมายคือ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ.2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ.2065
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการปรับปรุงโครง สร้างการแบ่งส่วนราชการของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวด ล้อม และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในคราวเดียวกันนี้ เพื่อให้การดำเนินงานตามภารกิจที่ปรับปรุงขึ้นใหม่นี้ สามารถทำงานได้ทันที วยความราบรื่นไร้รอยต่อ
โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมนี้ จะมีโครงสร้างการทำงานที่ปรับปรุงจากโครงสร้างเดิมของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และมีโครงสร้างส่วนหนึ่งมาจาก กองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ สผ. ทำให้ต้องเสนอร่างกฎกระทรวงการปรับปรุงโครงสร้างของทั้ง 2 หน่วยงาน และ พ.ร.ฎ. เปลี่ยนชื่อกรม สส.ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในคราวเดียวกัน
สำหรับโครงสร้างการดำเนินงานของ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จะประกอบด้วย
- สำนักงานเลขานุการกรม
- กองขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- กองขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจก
- กองยุทธศาสตร์และความร่วมมือระหว่างประเทศ
- กองส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
- ศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมถึง กลุ่มตรวจสอบภายใน และกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร
การปรับปรุงโครงสร้างการทำงานของหน่วยงานในทส.และสิ่งแวดล้อมครั้งนี้ จะทำให้การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ให้ความเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น และยังเป็นการแสดงให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อประเด็นปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
คัน คัน คัน! “พลายศักดิ์สุรินทร์” นอนเกาพุงทิ้งตัวนอนกลางป่า