วันนี้ (13 มิ.ย.2566) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในรายการพิเศษ "จักรวาลส่วยในสังคมไทย" ว่า การออกมาตรวจสอบส่วยรถบรรทุก ไม่ได้เป็นการพุ่งชนอะไร แค่ใช้ตรรกะของมนุษย์ปกติในการตั้งคำถาม ว่า เหตุใดรถที่ติดสติกเกอร์ต้องเข้าด่านชั่ง วิ่งขวาได้ แบกน้ำหนักได้เยอะ แต่คนที่ถูกถามก็ได้แต่ยิ้ม ก้มหน้าก้มตา
นายวิโรจน์ ยังตั้งคำถามถึงปัญหาที่มายาวนานมากกว่า 9 ปี ทั้งที่ดูไม่มีอะไรมาก เชื่อว่าเป็นเพราะคุณธรรมในระบบราชการหายไป กลายเป็นระบบวิ่งเต้น ซื้อตำแหน่ง และตั๋ว ฝากตั้งแต่ระบบบนลงมา เรื่องส่วย คอร์รัปชัน ไม่มีทางแก้ได้ด้วยการปราบ แต่ต้องสร้างระบบคุณธรรมในระบบราชการ ต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง วิ่งเต้น และไม่จำเป็นต้องเพิ่มโทษผู้กระทำผิด เพราะกฎหมายที่มีอยู่เพียงพอแล้ว
ยังมีคอร์รัปชัน เพราะมีต้นทุนซื้อตำแหน่ง ยกตัวอย่างผู้กำกับสถานีตำรวจ จ่ายหลักสิบล้านบาท เอาระบบคุณธรรมกลับมาให้ได้ ต้นทุนของผู้บังคับบัญชาลดลง
ส่วนในมุมกฎหมายที่เป็นอุปสรรคและไม่เอื้อในการปราบปรามทุจริต ก็ต้องแก้ ขณะที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายออกพระราชบัญญัติปกป้องผู้เปิดโปงการทุจริต ทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่มีหลักฐานและรู้เบาะแสการทุจริตคอร์รัปชัน จะนำไปสู่การขยายผลเอาผิดถึงระดับสูง เรียกว่าตายยกรัง ซึ่งต้องทำควบคู่การแก้กฎหมาย การใช้เทคโนโลยี และการคืนระบบคุณธรรมในระบบราชการ ส่วนการปราบปรามเป็นเพียงการระงับเหตุเบื้องต้น
นายวิโรจน์ ยังชื่นชม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ที่ทำหน้าประธานสอบข้อเท็จจริงส่วยรถบรรทุก เป็นข้าราชการที่ดี ตรงไปตรงมา มั่นใจว่าสังคมจะเกิดความสบายใจ
นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนทั้งเนื้อหมูเถื่อนนำเข้าจากบราซิล สเปน เป็นเรื่องใหญ่ ถูกอายัดแล้ว 161 ตู้ และยังไม่ได้ทำลาย ซึ่งต้องเสียค่าไฟในการเก็บไว้ กังวลการแพร่ระบาดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร พร้อมเสนอด่านศุลกากรเข้มงวดตรวจสอบ
เราปล่อยให้มีการนำเข้าหมูเถื่อน โดยหลอกเป็นพิกัดอาหารทะเลแล้วไม่มีการตรวจกำชับที่ด่านศุลกากร