คลิปเสียงคำถามของหนึ่งในผู้ถือหุ้นไอทีวี มีดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีหรือไม่? และคำตอบของประธานในที่ประชุม นายคิมห์ สิริทวีชัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไอทีวี ว่า ไม่มีการดำเนินการใด ๆ ต้องรอจนกว่าคดีความ (ระหว่างไอทีวีกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ (สปน.) เสร็จสิ้นก่อน ในการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2566
ถือเป็นคือจุดพลิกผันสำคัญ เพราะเป็นหลักฐานมัดแน่นหนาว่า เป็นคำตอบคนละอย่างกับที่ปรากฏในบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นวันดังกล่าว เป็นการย้อนแย้งกันชัดเจนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ส่อเค้าความผิดปกติเพราะมีนัยสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่ง เชื่อมโยงถึงเรื่องการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
เมื่อมีการเปิดหลักฐานคลิปดังกล่าว สิ่งที่น่าจับตามองจากนี้ จะมีทั้งในเรื่องทางกฎหมายและในเชิงทางการเมืองควบคู่กันไป ในทางกฎหมายนั้น กกต.ต้องดำเนินการสืบสวนไต่สวนหลังจากอาสาเป็นเจ้าภาพดำเนินการตามมาตรา 151 พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. รู้อยู่แล้วว่า ขาดคุณสมบัติและมีคุณสมบัติต้องห้ามเป็น ส.ส. แต่ยังสมัคร
ซึ่งต้องใช้หลักฐานจากคลิปเสียงดังกล่าวที่เป็นต้นฉบับจริง รวมถึงรายงานบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นที่มีคำตอบเรื่องไอทีวียังทำธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ ทั้งในฐานะกกต.และในฐานะเจ้าพนักงาน ย่อมสามารถเรียกตรวจสอบได้
ประเด็นที่จะพ่วงตามมาคือ บันทึกรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นวันดังกล่าว หากพบว่าไม่ตรงกับความจริงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องคำถามและคำตอบเรื่องการทำธุรกิจสื่อของไอทีวีหรือไม่ เนื่องจากในเอกสารบันทึกรายงาน มีการลงนามทั้งจากประธานที่ประชุม และกรรมการบริษัทที่เข้าร่วมประชุมอย่างน้อยอีก 4 คน รวมทั้งกรรมการผู้สอบทานและแก้ไข รวมอยู่ด้วย
เรื่องนี้นายณพลเดช มณีลังกา อดีตเลขานุการ กรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนฯ ระบุว่า เข้าข่ายทำเอกสารปลอมและใช้เอกสารปลอม มีความผิดตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชน ฐานลงข้อความเท็จ มีโทษคุก 5 ปี ปรับ 1 ล้านบาท และผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 ว.1 ฐานปลอมเอกสาร โทษจำคุก 3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท ส่วนผู้ที่ไปร้องต่อ กกต. รวมถึงผู้ที่อาจมีการร่วมมือการกระทำเอกสารเท็จ อาจเข้าข่ายผิดตามป.อาญา มีโทษไม่แตกต่างกัน
เท่ากับนายเรืองไกรคนยื่นร้องต่อ กกต. อาจอยู่ในข่ายด้วย แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือคนที่อาจมีส่วนกระทำเอกสารเท็จดังกล่าวนี้ จะเชื่อมโยงไปถึงใครบ้างในการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าว หรือคนอื่นที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกับที่นายชัยธวัช พูดไว้ในการแถลงข่าวเมื่อวันก่อนว่า อาจนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีกับกระบวนการปลุกผีไอทีวีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(ยังไม่นับ ยังไม่ทราบว่ามีพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังหรือไม่)
จึงได้เห็นความเคลื่อนไหวในเชิงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะบริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด มหาชน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไอทีวี โดยนายคิมห์ สิริทวีชัย กรรมการผู้อำนวยการ ทำหนังสือแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า ได้มอบหมายให้ “ไอทีวี” ตรวจสอบข้อเท็จจริงปมบันทึกรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นโดยเร็ว เพื่อความโปร่งใส และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล
ขณะที่นายนิกม์ คนเปิดประเด็นนายพิธาถือหุ้นไอทีวี 4.2 หมื่นหุ้น ได้ยืนยันผ่าน การให้สัมภาษณ์สื่อ อ้างว่า ได้ยินนายคิมห์ ตอบผู้ถือหุ้นว่า ปัจจุบัน บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ตามวัตถุประสงค์บริษัท และเสนอให้เปิดเทปฉบับเต็มของการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี เพราะคนละหน้าตากับคลิปข่าวที่มีการเผยแพร่ออกไป
ส่วนทางด้านการเมือง ก็จะเข้มข้นไม่แพ้กัน แม้ว่าคลิปดังกล่าว จะสามารถสะกัดข้ออ้างไม่โหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ ของสมาชิกวุฒิสภาได้ระดับหนึ่ง จากเดิมปมถือหุ้นไอทีวียังไม่เคลียร์ชัดเจน
ประกอบกับปฏิกริยาที่เกิดขึ้นกับราคาหุ้นอินทัชฯ และหุ้นกัลฟ์ ฯ ที่ร่วงมากในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) สะท้อนแรงสนับสนุนของผู้คนต่อนายพิธาได้เป็นอย่างดี ทั้งจะส่งผลให้เส้นทางเดินสู่เก้าอี้นายกฯ ของนายพิธา ราบรื่นมากขึ้น
แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ คือในมุมข้อสงสัยทางการเมือง ที่จะมีเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น หากมีการทำเป็นขบวนการจริงอย่างที่พรรคก้าวไกลเชื่อ ก็ต้องมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่รับ “ส้มหล่น” ที่อาจตกลงในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองก็ได้ หรืออาจส่งอานิสงส์ไปถึงพรรคการเมืองนอกขั้วได้ หากแผนนี้ประสพความสำเร็จ เพราะในด้านความเชื่อมโยงนั้น สามารถมองได้อย่างทะลุผ่านตัวบุคคลและเส้นสายทางธุรกิจได้ไม่ยาก
ดังที่นายชัยธวัชให้คำตอบจากคำถามสื่อว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนการปลุกผีไอทีวี โดยเขาตอบแบบยั้งๆ ไมตรีอยู่ในทีว่า เร็วไปที่จะกล่าวหาใคร แต่เชื่อว่าประชาชนสามารถคาดเดาได้จากพฤติกรรมเหล่านี้ และพรรคก้าวไกล ได้เริ่มพอเห็นแล้วว่ามีใครบ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่วายตั้งเป็นปุจฉา ไม่แน่ใจว่ามีพรรคการเมืองเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่?
เป็นปุจฉาที่น่าจะหาวิสัชนาได้ไม่ยาก หากเป็นแฟนการเมืองพันธุ์แท้ตัวจริง
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดผู้ถือหุ้นใหญ่ “ไอทีวี” แล้วก็พบ "งูกินหาง"
"นิกม์ แสงศิรินาวิน" เป็นใคร ในเกมหุ้น ITV เผือกร้อน "ก้าวไกล"